ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

สสส. ผนึกภาคี สร้างโอกาสเยาวชนพิการ ก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัยและตลาดงาน เพื่ออนาคตที่เท่าเทียมและยั่งยืน

วันที่ลงข่าว: 16/12/25
          ในปัจจุบัน โอกาสเข้าถึงการศึกษาของคนพิการยังคงเป็นสิ่งที่ยากจะตอบสนองให้ตรงความต้องการ เนื่องด้วยข้อจำกัด ทั้งเงินทุน การเดินทาง รวมถึงสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย แม้จะมีกฎหมายและหน่วยงานเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ ซึ่งรวมไปถึงการรับเข้าทำงานในสถานประกอบการต่างๆ แต่ยังคงมีคนพิการอีกจำนวนมากที่หลุดออกจากระบบการศึกษา และไม่มีงานทำ
          เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับผู้พิการ กองทุนสนันสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในฐานะองค์กรสนับสนุนสุขภาวะระดับประเทศ จึงผสานความร่วมมือภาคีเครือข่าย นำโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.), มูลนิธินวัตกรรมทางสังคม, มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม และ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) จัดงาน “เยาวชนพิการกรุงเทพฯ เรียนดี – มีงานทำ” งานแนะแนวการศึกษาและอาชีพสำหรับคนพิการ เพื่อเปิดพื้นที่ให้เยาวชนพิการเข้าสู่ข้อมูลการศึกษา ค้นหาทักษะ ตลอดจนเส้นทางอาชีพของตนเอง
          ภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้จัดการ สสส. เผยข้อมูลจากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ว่า ในปี 2568 ไทยมีผู้พิการราว 3,011,000 คน ซึ่งแม้ว่าในกรุงเทพฯ จะมีโอกาสรับการศึกษามากกว่า แต่ก็มีเพียง 31,512 คน เท่านั้น ที่เข้าถึงอุดมศึกษา ในฐานะองค์กรสร้างเสริมสุขภาวะคนไทยทุกกลุ่ม จึงเดินหน้าพัฒนาสุขภาวะคนพิการต่อเนื่องมากกว่า 10 ปี ล่าสุดจัดงานเยาวชนพิการกรุงเทพฯ เรียนดี – มีงานทำ เปิดพื้นที่ให้เด็กพิการที่กำลังศึกษาในระดับมัธยมศึกษามีโอกาสเลือกคณะที่สนใจ-มหาวิทยาลัยที่ชอบ
          ผู้ช่วยผู้จัดการ สสส. เน้นย้ำว่า สสส. สนับสนุนมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม และมูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม ในการเปิดโอกาสการมีงานทำให้กับคนพิการ รวมถึงเปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กพิการด้วย โดยพบว่า เด็กพิการที่มีโอกาสศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาน้อยมาก เพียงร้อยละ 1 เท่านั้น ทำให้เป็นการปิดกั้นสายอาชีพหรือโอกาสการทำงานที่หลากหลาย
          “วันนี้มีโอกาสให้ทางมหาวิทยาลัยทั้ง 16 แห่ง ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เอื้อเฟื้อ แบ่งปัน และมีความพร้อมในการเรียนการสอนสำหรับเด็กพิการ ได้เข้ามาจัดโอกาสการศึกษาให้กับเด็กพิการที่สนใจจะเรียนต่อ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่ได้จับมือทำงานร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องการเพิ่มโอกาสให้เด็กพิการ และคนพิการต่อไป”
          ขณะที่ อภิชาติ การุณกรสกุล ประธานกรรมการมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม อธิบายว่า การจัดงานครั้งนี้ ถือเป็นภารกิจหลักของทางมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม ซึ่งไม่เพียงแค่ให้คนพิการได้มีงานทำ แต่ต้องเป็นการทำงานที่ถูกจ้างอย่างถูกกฎหมาย โดยร่วมกับมูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม นำฐานข้อมูลการศึกษาสำหรับเด็กพิการจาก “โครงการเด็กพิการเรียนไหนดี” มาเชื่อมโยงกับความเชี่ยวชาญด้านการจ้างงานและพัฒนาทักษะวิชาชีพของมูลนิธิฯ เพื่อเชื่อมช่องว่างระหว่างการศึกษาและการทำงาน ให้คนพิการเข้าถึงตำแหน่งที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง
          “มูลนิธินวัตกรรมสังคมเราเชื่อมนายจ้างทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ ซึ่งมีหน้าที่ต้องจ้างคนพิการตามกฎหมายอยู่แล้ว เพื่อมาทำงานร่วมกับทางมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นแกนตรงกลางที่มีความสำคัญ เป็นจุดเชื่อมตั้งแต่น้องๆ ที่เข้าสู่การเรียน ไปสู่การมีงานทำ นอกจากนี้เรายังเชื่อมโอกาสของการได้ฝึกงาน ทำงานระหว่างเรียนด้วย ทำให้น้องมีทักษะ เมื่อจบไปแล้วก็จะเป็นบุคลากรที่เป็นที่ต้องการของบริษัทได้โดยตรง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นด้วยการขับเคลื่อนตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมาของทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งมูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม มูลนิธินวัตกรรมสังคม โดยการสนับสนุนของ สสส.”
ปิยะวัลย์ องค์สุวรรณ กรรมการมูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม ให้ข้อมูลว่า ก่อนที่จะมาเป็น “งานเยาวชนพิการกรุงเทพฯ เรียนดี – มีงานทำ” เคยจัดเป็นเพียงงานในห้องเล็กๆ ที่ สสส. ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยสถิติพบว่า เด็กตั้งแต่ระดับประถมฯ เป็นต้นมา มีจำนวนลดลงเรื่อยๆ กว่าจะมาถึงระดับมัธยมฯ เด็กหายไปแล้วกว่า 70% อันมาจากปัจจัยที่หลากหลาย แต่เราต้องการให้เด็กมัธยมฯ เข้าสู่มหาวิทยาลัย เพราะโอกาสที่เขาจะมีงานทำคือเกือบ 100% จาก 10 ปีที่แล้ว เราจึงได้ร่วมมือกับหลายภาคส่วนจนมาถึงงานวันนี้
          “ในงานของเรานอกจากจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนการสอนของทางมหาวิทยาลัย หรือสถานอาชีวศึกษาที่เปิดให้เด็กพิการแล้ว ยังมีการจัดเวิร์กชอปเตรียมความพร้อมให้เด็กๆ ได้ค้นหาตัวเอง ที่เราเรียกว่า ‘ปั้นฝัน’ เวิร์กชอปที่สอนให้เด็กๆ สามารถทำพอร์ตโฟลิโอ เรียกว่า ‘ปั้นพอร์ต’ และเวิร์กชอป ‘ปั้นคำ’ สอนเทคนิคการสอบสัมภาษณ์ บุคลิกที่ต้องมี หรือการตอบคำถามที่จะทำให้เด็กๆ มีความมั่นใจ สามารถพาตัวเองเข้าไปสู่รั้วมหาวิทยาลัยได้ ทั้งหมดนี้คือไฮไลต์ที่เราทำตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา”
ความประทับใจของงานครั้งนี้ถูกถ่ายทอดผ่าน พิชญา เพชรยวน หรือ แม่ปลา ผู้ปกครองของน้องที่ได้รับโอกาสศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา เธอฝากกำลังใจไว้อย่างอบอุ่นว่า
          “อยากเป็นกำลังใจให้คุณพ่อ คุณแม่ และเด็กพิเศษทุกคน ให้เข้มแข็ง ให้สู้ เพราะเรายังมีกันและกัน เรายังมีรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จแล้วกลับมาให้ความรู้ แล้วก็ยังมีรุ่นน้องที่กำลังพยายามสู้อยู่ ยังไงเราก็ไปด้วยกันได้ และเราก็ให้คำปรึกษากันได้เสมอ”
 
... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.khaosod.co.th/advertorial/news_10060870
ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์ข่าวสดออนไลน์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก