ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

องคมนตรีและประธานกรรมการมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เปิดการออกหน่วยบริการทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ทำขาเทียมให้คนพิการขาขาดที่ยากไร้ในจังหวัดอุตรดิตถ์

วันที่ลงข่าว: 04/02/19

            ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรีและประธานกรรมการมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นประธานเปิดการออกหน่วยบริการทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ซึ่งมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ร่วมกับจังหวัดอุตรดิตถ์ จัดขึ้นที่โรงพยาบาลลับแล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ โดยมี รศ.นายแพทย์วัชระ รุจิเวชพงศธร เลขาธิการมูลนิธิขาเทียม พร้อมด้วยผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และช่างทำขาเทียม ให้บริการทำขาเทียมให้คนพิการขาขาดที่ยากไร้ในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง ระหว่างวันที่ 3 – 8 กุมภาพันธ์นี้ เบื้องต้นมีคนพิการขาขาดที่ได้ลงทะเบียนล่วงหน้าจากทั้ง 9 อำเภอ ของจังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 95 ราย และจังหวัดสุโขทัย 10 ราย รวม 105 ราย 

            ซึ่งทุกคนผ่านการตรวจประเมินจากแพทย์ก่อนสั่งการทำขาเทียม โดยสาเหตุหลักของการตัดขาเกิดจากอุบัติเหตุ และจากความพิการตั้งแต่กำเนิด โดยมีนายธนากร อึ้งจิตรไพศาล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย พล.ต.ชัยเดช สุรวดี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 35 พล.ต.ต.พยูห์ ธนศรีสืบวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ เข้าร่วม และในโอกาสนี้ผู้ที่มีจิตศรัทธาได้ร่วมบริจาคเงินให้กับทางมูลนิธิฯ ผ่านทางประธานมูลนิธิฯ ได้ยอดเงินรวมจำนวน 272,840 บาทด้วย

            จากนั้น ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย ได้เป็นประธานเปิดโรงงานทำขาเทียมพระราชทาน ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนการก่อสร้างจากพระพิศาลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อณีโฆ) วัดใหม่ปลายห้วย ต.เนินกุ่ม อ.สามง่าม จ.พิจิตร และคณะศิษยานุศิษย์ บริจาคจำนวน 1 ล้านบาท ก่อสร้างเป็นอาคารเอนกประสงค์ชั้นเดียว เพื่อเป็นโรงงานทำขาเทียมพระราชทาน ที่มีทั้งเครื่องมือ และเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกอบรมจากมูลนิธิขาเทียมฯ พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่กายภาพบำบัดที่ผ่านการอบรมประจำที่โรงพยาบาลลับแล จำนวน 35 คน เพื่อจะได้ช่วยเหลือดูแลคนพิการที่ได้รับขาเทียมจากมูลนิธิฯ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงมีพระเมตตาต่อคนพิการขาขาด ผู้ยากไร้ด้อยโอกาส และทรงมีพระราชประสงค์ให้เขาเหล่านั้นพ้นจากความทุกข์ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถกลับไปประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก