ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

พช.อัพเดท จปฐ.เครื่องมือแก้ปัญหาชาติตรงจุด-รวดเร็ว

วันที่ลงข่าว: 10/01/19

พช.เดินหน้าพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูล จปฐ. “อธิบดี พช.” ชี้เป็นเครื่องมือชี้เป้าช่วยแก้ปัญหาชาติตรงจุด-รวดเร็ว-เชื่อถือได้ ยกเป็นฐานข้อมูลกลางสร้างความสุขให้กับพี่น้องประชาชนอย่างทั่วถึง

          วันที่ 9 ม.ค. ที่กรมการพัฒนาชุมชน ศูนย์ราชการฯแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธาน เปิดกิจกรรม “จปฐ. UPDATE : HAPPINESS FOR ALL 2019” โดยกล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้นำข้อมูล จปฐ.กับข้อมูลผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐมายืนยันกันระหว่างคนที่ได้รับการสำรวจว่าจน (survey-based) และคนที่มาลงทะเบียนว่าจน (register-based) นอกจากนี้ข้อมูล จปฐ.ยังเป็นเครื่องมือช่วยชี้เป้าว่าปัญหาคืออะไร อยู่ตรงไหน ทำให้แก้ปัญหาได้ตรงจุดและรวดเร็วขึ้น เป็นข้อมูลกลางของประเทศ ที่นำไปยึดถือ ใช้อ้างอิงได้ ทำให้หน่วยงานรัฐโปร่งใส่ มีธรรมาภิบาล โดยการจัดเก็บข้อมูล จปฐ. ปี 2562 ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) มีจำนวน 5 หมวด 31 ตัวชี้วัด

          อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชน และบริษัท กสท โทรคมนาคมจำกัด (มหาชน) : CAT ได้มีการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการจัดทำระบบสำรวจจัดเก็บข้อมูล จปฐ. ในรูปแบบดิจิทัล (Digital Survey) โดยการนำเทคโนโลยีโมบายล์แอปพลิเคชั่น (Mobile Application), คลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) และฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) มาช่วยส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติการด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อใช้งานสำรวจและจัดเก็บข้อมูลภาคสนามได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดยในปี 2562 ได้มีการนำร่องจัดเก็บข้อมูลที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเริ่มจัดเก็บช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 นี้ และคาดว่าระบบนี้จะสามารถดำเนินการได้เต็มรูปแบบ ครอบคลุมทั้งประเทศภายในปี 2564

          “ดังนั้น ข้อมูล จปฐ. ที่ถูกต้องเป็นจริงนั้นเป็นสิ่งสำคัญสุด โดยตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2561 ถึงเดือนมีนาคม 2562 นี้  จะมีอาสาสมัครลงพื้นที่ทั่วประเทศไปเคาะประตูบ้านท่านเพื่อสอบถาม และจัดเก็บข้อมูล จปฐ. ข้อมูลที่ได้จะไม่กระทบสิทธิ์ใดๆของท่าน ตรงกันข้ามจะเป็นประโยชน์ต่อตัวท่านและครอบครัว จึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนได้ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา บนหลักคิดที่ว่า “ร่วมพัฒนาประเทศไทย ร่วมให้ข้อมูล จปฐ.ที่เป็นจริง” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน

          ทั้งนี้คณะกรรมการพัฒนาชนบทแห่งชาติ (กชช.) มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) 76 จังหวัดเป็นประจำทุกปี ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2533 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลา 29 ปี โดยมีการปรับปรุงข้อคำถามและเครื่องชี้วัดให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทุก 5 ปี ข้อมูล จปฐ. เป็นข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ ทันสมัย เพราะจัดเก็บทุกปี และครอบคลุมทุกสภาพความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทุกๆ ด้าน สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ที่จะให้ทุกกระทรวงวิเคราะห์ Big Data ของหน่วยงานตนเองเพื่อให้ทราบว่าสิ่งใดสำคัญ สิ่งใดต้องแก้ไข สิ่งใดต้องทำก่อนทำหลัง และสิ่งใดต้องเร่งพัฒนาให้ครอบคลุมทุกมิติ (เศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคง) โดยอาศัยเหตุและผลของข้อมูล รวมถึงบริบทของพื้นที่นั้น ๆ เป็นฐานในการวิเคราะห์เพื่อดำเนินการ ข้อมูล จปฐ. จึงเป็นข้อมูลที่ตอบโจทย์

          การขับเคลื่อนนโยบายลดความเหลื่อมล้ำ และการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชน เห็นได้จากการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลได้ใช้ข้อมูล จปฐ. เป็นฐานในการวิเคราะห์ ในปี พ.ศ.2562 กรมการพัฒนาชุมชน ได้มีการจัดเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2561 ถึงเดือน มีนาคม 2562 โดยมีอาสาสมัครลงพื้นสอบถามข้อมูลตามครัวเรือนเป้าหมาย จำนวน 12,935,000 ครัวเรือน

          สำหรับการดำเนินการจัดเก็บข้อมูล จปฐ. ปี 2562 ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) แบ่งเป็น 5 หมวด 31 ตัวชี้วัด ประกอบด้วย หมวดที่ 1 สุขภาพ มี 7 ตัวชี้วัด 1. เด็กแรกเกิดมีน้ำหนัก 2,500 กรัม ขึ้นไป 2. เด็กแรกเกิด ได้กินนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนแรกติดต่อกัน 3. เด็กแรกเกิดถึง 12 ปี ได้รับวัคซีนป้องกันโรคครบตามตารางสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค 4. ครัวเรือนกินอาหารถูกสุขลักษณะ ปลอดภัย และได้มาตรฐาน 5. ครัวเรือนมีการใช้ยาเพื่อบำบัด บรรเทาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้นอย่างเหมาะสม 6.คนอายุ 35 ปีขึ้นไป ได้รับการตรวจสุขภาพประจำปี  7.คนอายุ 6 ปีขึ้นไป ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน ๆ ละ 30 นาที

          หมวดที่ 2 สภาพแวดล้อม มี 7 ตัวชี้วัด  1.ครัวเรือนมีความมั่นคงในที่อยู่อาศัย และบ้านมีสภาพคงทนถาวร 2.ครัวเรือนมีน้ำสะอาดสำหรับดื่มและบริโภคเพียงพอตลอดปี อย่างน้อยคนละ 5 ลิตรต่อวัน 3.ครัวเรือนมีน้ำใช้เพียงพอตลอดปี อย่างน้อยคนละ 45 ลิตรต่อวัน 11. ครัวเรือนมีการจัดบ้านเรือนเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด และถูกสุขลักษณะ 12. ครัวเรือนไม่ถูกรบกวนจากมลพิษ 13. ครัวเรือนมีการป้องกันอุบัติภัยและภัยธรรมชาติอย่างถูกวิธี14.ครัวเรือนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

          หมวดที่ 3 การศึกษา  มี 5 ตัวชี้วัด 15. เด็กอายุ 3 - 5 ปี ได้รับบริการเลี้ยงดูเตรียมความพร้อมก่อนวัยเรียน 16. เด็กอายุ 6 -14 ปี ได้รับการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี 17.เด็กจบชั้น ม.3 ได้เรียนต่อชั้น ม.4 หรือเทียบเท่า 18. คนในครัวเรือนที่จบการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี ที่ไม่ได้เรียนต่อและยังไม่มีงานทำได้รับการฝึกอบรมด้านอาชีพ 19. คนอายุ 15 - 59 ปี อ่าน เขียนภาษาไทย และคิดเลขอย่างง่ายได้

          หมวดที่ 4 การมีงานทำและรายได้ มี 4 ตัวชี้วัด  20. คนอายุ 15 - 59 ปี มีอาชีพและรายได้ 21.คนอายุ 60 ปีขึ้นไป มีอาชีพและรายได้ 22.รายได้เฉลี่ยของคนในครัวเรือนต่อปี (38,000 บาท/คน/ปี) 23.ครัวเรือนมีการเก็บออมเงิน

          และหมวดที่ 5 ค่านิยม มี 8 ตัวชี้วัด 24.คนในครัวเรือนไม่ดื่มสุรา 25. คนในครัวเรือนไม่สูบบุหรี่ 26.คนอายุ 6 ปีขึ้นไปปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง 27.ผู้สูงอายุ ได้รับการดูแลจากครอบครัว ชุมชน ภาครัฐ หรือภาคเอกชน  28. ผู้พิการ ได้รับการดูแลจากครอบครัว ชุมชน ภาครัฐ หรือภาคเอกชน 29. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ได้รับการดูแลจากครอบครัว ชุมชน ภาครัฐ หรือภาคเอกชน 30. ครัวเรือนมีส่วนร่วมทำกิจกรรมสาธารณะเพื่อประโยชน์ของชุมชน หรือท้องถิ่น 31.ครอบครัวมีความอบอุ่น

ที่มาของข่าว http://www.banmuang.co.th/news/politic/137774
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก