วันที่ 19 ธันวาคม 2561 เวลา 09.30 น. ณ โรงเรียนวัดบ่อภาค หมู่ที่ 4 ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ นายชัชพงศ์ เอมะสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานกล่าวเปิด "โครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างร้อยยิ้มให้ประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562" โดยมีนายภูมิสิทธิ์ วังคีรี ปลัดจังหวัดพิษณุโลก นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาตย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พลตำรวจตรีถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก และหัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนอำเภอนครเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ สำหรับหน่วยบริการจังหวัดเคลื่อนที่ในวันนี้ โดยมวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานราชการ องค์กรภาคเอกชน และประชาชน และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก แก่ประชาชนให้ไม่สามารถเดินทางเข้าถึงสถานบริการโดยตรงได้สะดวก อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้นในการใช้บริการและลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ จากหน่วยราชการของจังหวัดพิษณุโลก และหน่อยงานภาครัฐที่ตั้งอยู่ในตัวอำเภอชาติตระการ ซึ่งอยู่ห่างจากพื้นที่ดังกล่าวระยะทางรวมกว่า 33 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางกว่า 30 นาที

           สำหรับปัญหาที่พบในพื้นที่ปัจจุบันประกอบด้วย 3 เรื่องหลักคือ ปัญหาถนนหนทางในการเดินทางสัญจรของประชาชน ปัญหาเรื่องน้ำอุปโภคและบริโภคไม่เพียงพอ และปัญหาในเรื่องของพื้นที่ทำกินของประชาชนปัญหาที่ 1. เรื่องถนนหนทางเป็นเส้นทางตั้งแต่ถนนชาติตระการถึง 3 แยกสุรพล เข้ามาในพื้นที่เป็นถนนไม่มีไหล่ทางทั้ง 2 ข้างและมีลักษณะแคบ เส้นทางดังกล่าวถือเป็นเส้นทางสำคัญที่มีประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวใช้สัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นเส้นทางเข้าสู่สถานที่ท่องเที่ยว ทั้งอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว และสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า อีกทั้งเส้นทางรอยต่อของ 3 อำเภอคือ อำเภอชาติตระการ อำเภอนครไทย และจังหวัดเลย เป็นถนนผิวดินจึงอยากให้มีการสร้างถนนเส้นดังกล่าวที่ได้มาตรฐานเป็นผิวราดยาง หรือผิวคอนกรีตเพื่อความสะดวกและความปลอดภัยของประชาชนในการสัญจรข้ามเขตอำเภอไป-มาปัญหาที่ 2. เรื่องน้ำอุปโภค-บริโภคไม่พอใช้ของประชาชนโดยเฉพาะพื้นที่หมู่ที่ 1 , 2 และหมู่ที่ 3 เนื่องจากท่อส่งน้ำมีขนาดเล็กและมีเพียงท่อเดียวใช้ร่วมกัน จึงอยากให้มีการขยายจำนวนท่อส่งน้ำจาก 1 ท่อเพิ่มเป็น 3 ท่อท่อละ 1 หมู่บ้านเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้อุปโภค-บริโภคของประชาชน และส่วนที่เป็นฝายชะลอน้ำในพื้นที่ หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 5 เป็นพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำแต่ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้ปัญหาที่ 3. เรื่องการออกโฉนดที่ดินทำกินของประชาชน เพราะตั้งแต่ปี 2554 พื้นที่หมู่ที่ 1 สามารถออกโฉนดได้เพียงแค่ 7 ราย สำหรับพื้นที่หมู่ที่ 3 , 4 และหมู่ที่ 5 ทางเจ้าหน้าที่ที่ดินได้มารางวัดไปแล้วแต่ยังไม่มีการออกโฉนดที่ทำกินให้ไม่ได้ด้านนายประคอง บุญกระจ่าง หัวหน้าหมวดทางหลวงอำเภอชาติตระการ ชีแจ้งว่า ในส่วนของเส้นทางทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการพัฒนาอยู่และมีแนวทางที่จะขยายเส้นทางให้กว้างขึ้นอยู่แล้วแต่ตอนนี้ติดปัญหาในเรื่องของงบประมาณในการดำเนินการเพื่อที่จะขยายเส้นทางเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ใช้เสนทางการสัญจรเส้นทางดังกล่าว

          ขณะที่ นายปิติ ฉัตรแก้ว ผู้แทนกรมชลประทานอำเภอชาติตระการ ชี้แจ้งว่า ทางกรมชลสามารถที่จะออกแบบและวางแผนให้ได้แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้จึงจำเป็นที่จะต้องทำเรื่องเสนอขึ้นไปให้ทางกรมป่าไม้พิจารณาในการดำเนินการ ทางเราจะทำโดยไม่ขออนุญาตกรมป่าไม่ก็ไม่ได้ทั้งนี้ นายชัชพงศ์ เอมะสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้กล่าวว่าในกรณีที่เกิดปัญหาขึ้นในพื้นที่ของตำบลใดจำเป็นจะต้องทำหนังสือเสนอต่อนายอำเภอ เพื่อให้นายอำเภอพิจารณาและส่งหนังสือต่อไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพื่อให้ทางจังหวัดประสานกับทางหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อหาทางออกและแก้ไขปัญหาให้ประชาชนต่อไปหลังจากรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่แล้ว นายชัชพงศ์ เอมะสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ประธาน ได้ร่วมกันมอบเงินสนับสนุนการจัดกิจกรรมฯให้ นายสุทัศน์ วงษ์ทับทิมนายอำเภอชาติตระการจำนวน 20,000 บาท พร้อมร่วมกับหัวหน้าฝ่ายราชการได้ร่วมกันมอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 100 ชุด มอบพันธุ์ปลาให้ประชาชนนำไปขยายพันธุ์ไว้เป็นแหล่งอาหาร และมอบทุนการศึกษาให้เด็กนักเรียน 5 ทุน มอบเงินสงเคราะห์สำหรับผู้พิการและผู้ต้อยโอกาส 5 ราย และมอบเงินสงเคราะห์สำหรับผู้สูงอายุ จำนวน 5 ราย ก่อนที่จะเดินเยี่ยมชมบู๊ตประชาสัมพันธ์ของสถานีตำรวจภูธรเคลื่อนที่ บู๊ตหมวดมวลชนสัมพันธ์ของ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 35 กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 และร่วมมอบหมวกกันน็อกให้กับเด็กนักเรียนที่บู๊ตของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลกนำมาแจกในวันนี้