ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

พม.ช่วยหญิงชราป่วยโรคเชื้อรากินกระดูกและพิการตาบอด ที่ จ.กาญจนบุรี และช่วยเหลือครอบครัวเด็กชายแม่ที่พิการตาบอดทั้ง 2 ข้าง ที่ จ.เพชรบูรณ์

วันที่ลงข่าว: 13/09/17

       รมว.พม. กำชับ จนท. เร่งช่วยเหลือหญิงชราวัย 84 ปี ป่วยเป็นโรคเชื้อรากินกระดูกและพิการตาบอด ที่ จ.กาญจนบุรี และชื่นชมเด็กชายวัย 10 ขวบ สู้ชีวิตรับจ้างทำงานช่วยเหลือครอบครัว และแม่ที่พิการตาบอดทั้ง 2 ข้าง ที่ จ.เพชรบูรณ์

       วันนี้ (12 ก.ย. 60) เวลา 07.30 น. นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 711/2557-2560 เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 8 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ

       พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีหญิงชราวัย 84 ปี ที่ป่วยเป็นโรคเชื้อรากินกระดูก พิการตาบอด และมีร่างกายผอมซูบ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ อาศัยเพียงลำพังในบ้านสภาพเก่าทรุดโทรม อาศัยเพื่อนบ้านแวะเวียนมาดูแลเป็นครั้งคราว ซึ่งหญิงชราดังกล่าวไม่มีบัตรประชาชน จึงไม่ได้รับสิทธิการรักษาพยาบาล และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาญจนบุรี (พมจ.กาญจนบุรี) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประเมินทางสังคมของหญิงชราดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านผู้สูงอายุ และคนพิการของกระทรวง พม.พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลอาการป่วยของหญิงชราดังกล่าวอย่างใกล้ชิด อีกทั้ง ประสานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่สังกัดกระทรวง พม. ให้เข้ามาดูแลผู้ป่วยเป็นระยะ รวมทั้ง ดูแลเรื่องการปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้มีความมั่นคง แข็งแรง และถูกสุขลักษณะ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ และให้การช่วยเหลือในเรื่องสวัสดิการสังคมตามความเหมาะสม และร่วมกันหาแนวทางการช่วยเหลือในระยะยาวต่อไป

       พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีเด็กชายวัย 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ครอบครัวมีฐานะยากจน แต่สู้ชีวิต รับจ้างไปซื้อของ และนำขนมไปขายที่โรงเรียน เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัวและดูแลแม่วัย 33 ปี ที่พิการตาบอดทั้ง 2 ข้าง ซึ่งอาศัยอยู่กันเพียงลำพังในบ้านสภาพเก่าทรุดโทรมใกล้ผุพัง มีเพียงเบี้ยคนพิการใช้ประทังชีวิต ที่อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ นั้น ตนขอชื่นชมเด็กชายคนดังกล่าว ที่มีความขยันหมั่นเพียร กตัญญู มีความตั้งใจช่วยเหลือครอบครัว โดยไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก นับว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของเด็กและเยาวชน ทั้งนี้ ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบูรณ์ (พมจ.เพชรบูรณ์) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านเด็ก และคนพิการของกระทรวง พม. พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และอุปกรณ์การศึกษา และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการการศึกษาของเด็กชายดังกล่าวในระยะยาว พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลของผู้เป็นแม่อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ได้ให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องสวัสดิการสังคม เพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมายตามความเหมาะสม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาวต่อไป

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก