นางวราภัสร์  ไพพรรณรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ด้อยโอกาส และความหลากหลายทางสังคม วุฒิสภา พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่เข้าร่วมประชุมหารือกับผู้แทนของหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดชลบุรีที่เกี่ยวข้องและผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อติดตามการดำเนินงานด้านการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนายธนนท์ พรรพีภาส รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายกิตติ อินทรกุล รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางสาวจันจิรา ไทยบัณฑิตย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี  พร้อมคณะหัวหน้าส่วนราชการและผู้แทนองค์กรที่เกี่ยวข้องในจังหวัดชลบุรี ให้การต้อนรับ

          นางวราภัสร์ เปิดเผยว่า กมธ.ได้รับทราบข้อมูลสถานการณ์ด้านประชากรและการปกครองของจังหวัดชลบุรี ซึ่งจังหวัดชลบุรีเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว มีประชากรกว่า 1 ล้าน 6 แสนคน มีประชากรแฝงกว่า 7 แสนคน คิดเป็นร้อยละ 46.15 ของประชากรในจังหวัด โดยประเด็นปัญหาทางสังคมที่สำคัญของจังหวัดชลบุรีมี 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. ปัญหาประชากรแฝง เนื่องจากจังหวัดชลบุรีเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ทำให้มีแรงงานอพยพเข้ามาทำงานจำนวนมาก ซึ่งทำให้เกิดปัญหารายได้ไม่เพียงพอ คนเร่ร่อนและไร้ที่พึ่ง อาชญากรรม การบังคับใช้แรงงาน และการขอทาน 

          2. ปัญหาเด็กและเยาวชน มีเด็กจำนวนมากอยู่ในครอบครัวยากจน ขาดผู้ดูแลหรือถูกทอดทิ้ง ส่งผลให้เด็กบางส่วนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิด และเกิดปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม (คุณแม่วัยใส) 3. ปัญหาคนพิการ ซึ่งคนพิการจำนวนมากอยู่ในภาวะพึ่งพิง ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้และขาดผู้ดูแล ปัจจุบันมีคนพิการจำนวนมากรอลำดับเพื่อเข้ารับการดูแลในสถานสงเคราะห์กว่า 127 ราย ซึ่งถือเป็นสัดส่วนสูงเป็นลำดับที่ 1 ของประเทศ และ 4. ปัญหาผู้สูงอายุ จังหวัดชลบุรีกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุ โดยมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 16.44 ของประชากรทั้งจังหวัด มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จำเป็นต้องเตรียมมาตรการรองรับเพื่อดูแลคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในระยะยาว

          นอกจากนี้ กมธ.ยังได้รับฟังปัญหาและร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นจากผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วมประชุม อาทิ ปัญหาเรื่องเงินอุดหนุนในการสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ปัญหาและข้อจำกัดในการรับเด็กพิการเข้าเรียน  ปัญหาด้านการสนับสนุนการทำงานขององค์การภาคประชาสังคมที่ทำงานด้านสังคมในการขอเป็นหน่วยงานที่สามารถออกใบหักลดหย่อนภาษีให้กับผู้ที่บริจาคเงินให้ได้ ปัญหาผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในกลุ่มเด็กและเยาวชน รวมทั้งปัญหาด้านบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นปัญหาสำคัญหนึ่งที่ควรต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

          ทั้งนี้ กมธ.จะได้นำข้อมูลที่ได้รับทราบไปประกอบการพิจารณาศึกษาและดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมาธิการต่อไป สำหรับประเด็นปัญหาเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชน กมธ.ได้ให้ความสำคัญและกำหนดจัดเสวนาโต๊ะกลม เรื่อง “มาตรการเชิงรุกเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชน” ในวันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2568  ณ ห้องประชุม 406–407 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา เพื่อเป็นเวทีระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนอันนำไปสู่การแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป

... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/4343983/