ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รายงานพิเศษ : “เปิดแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติรับเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายนนี้”

วันที่ลงข่าว: 02/11/21

             แหล่งท่องเที่ยวทั้งทางทะเลและทางบกพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาชมความสวยงามแล้ว โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้วางแผนรับกิจกรรมดำน้ำในแต่ละพื้นที่ไว้แล้ว ยกเว้นอ่าวมาหยาที่ยังคงปิดฟื้นฟูทรัพยากรอย่างไม่มีกำหนด แต่สามารถจอดเรือหน้าอ่าวถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้             

            ทรัพยากรธรรมชาติตามแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางบกและทางทะเลของประเทศไทย เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ความสนใจอยากเดินทางมาสัมผัสความสวยงามดังกล่าว โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ถือเป็น “Unseen” ที่จะได้ชมความงดงามของน้ำทะเล สัตว์ทะเล และปะการังที่มีสีสันสดใสดึงดูดให้ต้องดำลงไปสัมผัส หลังได้ปิดแหล่งท่องเที่ยวช่วงสถานการณ์โควิด-19 ช่วยให้ธรรมชาติต่างๆได้ฟื้นฟูขึ้น อย่างหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา เป็น 1 ใน 10 แหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆของโลก กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เปิดให้ท่องเที่ยวฤดูกาลใหม่แล้วระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม 2564 – 15 พฤษภาคม 2565 รูปแบบการท่องเที่ยวไปเช้า-เย็นกลับ (One Day Trip) พร้อมกิจกรรมดำน้ำลีก 525 คนต่อวัน รับนักท่องเที่ยวจำกัดอยู่ที่ 3,850 คนต่อวัน ซึ่งต้องจองตั๋วเข้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติทุกแห่งผ่านระบบ QueQ เท่านั้น            

            ขณะที่หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เป็นอีกจุดหัวใจสำคัญของนักท่องเที่ยวให้ความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะ “อ่าวมาหยาและอ่าวโล๊ะซามะ” อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ยังอยู่ระหว่างปิดฟื้นฟูแนวปะการังและสัตว์ทะเลหายากระยะยาวให้กลับคืนความสมบูรณ์ แม้จะปิดมายาวนานเกือบ 3 ปีแล้วก็ตามแต่จากการสำรวจกลับพบว่าแนวปะการังยังไม่ฟื้นฟูเท่าที่ควรและเติบโตค่อนข้างช้า หลังถูกกิจกรรมของมนุษย์ทำลายมานาน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เล่าให้ฟังว่า อุทยานแห่งชาติทุกแห่งมีความพร้อมรับนักท่องเที่ยวทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะการรองรับผู้พิการตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ขณะที่การดำน้ำจะมีความเข้มงวดมากขึ้นเพื่อดูแลและปกป้องแนวปะการัง ในส่วนของอ่าวมาหยายังคงปิดฟื้นฟูพื้นที่ไม่มีกำหนด เนื่องจากแนวปะการังยังไม่ฟื้นความสมบูรณ์และสัตว์ทะเลหายากกำลังเพิ่มจำนวนหลังหลายชนิดมีปริมาณลดลง แต่สามารถมาจอดเรือบริเวณที่มีการวางทุ่นลอยน้ำหน้าหาดเพื่อถ่ายรูปได้เท่านั้น พร้อมจะแนะนำให้นักท่องเที่ยวลองไปดำน้ำหรือเล่นน้ำในแหล่งท่องเที่ยวรองอื่นๆ เช่น เกาะห้อง            

            เบื้องต้นได้ขอให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและมัคคุเทศก์ให้คำแนะนำการท่องเที่ยวและข้อห้ามต่างๆกับนักท่องเที่ยวทุกครั้ง เช่น ห้ามเก็บ หัก หรือเหยียบปะการัง ห้ามตกหรือจับสัตว์ทะเล ห้ามทิ้งขยะหรือพลาสติกลงทะเล ห้ามขีดเขียนและทำลายป้ายสัญลักษณ์ต่างๆ ในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งความร่วมมือจากทุกคนจะสร้างจิตสำนึกที่ดีและส่งผลเชิงบวก เพราะเมื่อกิจกรรมของมนุษย์ถูกจำกัดธรรมชาติจะสามารถฟื้นฟูตนเองได้เร็วและสมบูรณ์มากขึ้น 

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก