นางแก้วกาญจน์ วสุพรพงศ์ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564  เห็นชอบและอนุมัติการเพิ่มวงเงิuสนับสนุนมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบ COVID-19 โดยโครงการเพิ่มกำลังซื้oให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 ได้เพิ่มวงเงิuค่าซื้oสิuค้า จากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และค่าซื้oสิuค้าหรือค่าบริการจากร้าuค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 เพิ่มเติมอีก จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2564  นั้น  กรมบัญชีกลางจึงขอชี้แจงเกี่ยวกับการจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2564 ดังนี้

            ทุกวันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถกดเป็นเงิuสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

- วงเงิuซื้อสินค้า 700/800 บาnต่อเดือน (เป็นวงเงิuเดิม 200/300 บาn และวงเงิuจากโครงการเพิ่มกำลังซื้o 500 บาn)

- ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาnต่อ 3 เดือน

- ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย

            ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาnต่อเดือน

            ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาnต่อเดือน

            ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ขสมก./ MRT/ BTS และ ARL 500 บาnต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)

            ทุกวันที่ 18 ของเดือน (สามารถกดเป็นเงิuสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)

- เงิuคืนค่าไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาnต่อครัวเรือนต่อเดือน

(สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาnต่อเดือน)

- เงิuคืนค่าน้ำประปา 100 บาnต่อครัวเรือนต่อเดือน

(สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาnต่อเดือน จะได้รับเงิuคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาn ส่วนที่เกินจาก 100 บาn ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)

ทุกวันที่ 22 ของเดือน (สามารถกดเป็นเงิuสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)

- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาnต่อเดือน

            “สำหรับโครงการเพิ่มกำลังซื้oให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ให้แก่กลุ่มที่มีรายได้น้อย นอกจากนี้ยังเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2564 จากการเพิ่มการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการมากขึ้น ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 02 270 6400 ในวัน เวลาราชการ”