ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

กระทรวงแรงงานเดินหน้านโยบายขจัดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสที่เท่าเทียม ส่งเสริมให้คนพิการมีงานทำ 1,806 ราย สร้างรายได้กว่า 18 ล้านบาทต่อปี

วันที่ลงข่าว: 26/11/20

        นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตลอดปีงบประมาณ 2563 ตั้งแต่ตุลาคม 2562 – กันยายน 2563  กรมการจัดหางาน ส่งเสริมให้คนพิการมีงานทำ ทั้งสิ้น 1,806 รายจากผู้พิการที่ขึ้นทะเบียนหางาน 2,161 คน ก่อให้เกิดรายได้ต่อปี 18,199,000 บาท จำแนกตามระดับการศึกษา ดังนี้ 1.ระดับประถมศึกษา (พนักงานรักษาความปลอดภัย ทำความสะอาด ดูแลสวน) จำนวน 615 คน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 9,000 บาท 2. ระดับมัธยมศึกษา (เจ้าหน้าที่คลังสินค้า พนักงานบริการ) จำนวน 809 คน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 9,000 บาท 3. ระดับปวช. (พ่อครัว พนักงานต้อนรับ) จำนวน 82 คน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 12,500 บาท 4. ระดับปวส./อนุปริญญา (เสมียน พนักงานบริการ) จำนวน 148 คน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 12,500 บาท 5.ปริญญาตรี (ผู้จัดการเฉพาะด้าน เจ้าหน้าที่สำนักงาน ช่างเทคนิค) จำนวน 152 คน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 16,500 บาท  

        ด้านนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า สำหรับคนพิการที่ยังไม่ได้รับการบรรจุตามมาตรา 33 เนื่องจากไม่พร้อมทำงานในสถานประกอบการ หรือมีปัญหาด้านสุขภาพ สามารถดำเนินการขึ้นทะเบียนขอใช้สิทธิตามมาตรา 35 เพื่อรับสิทธิในสัมปทานพื้นที่ทำกิน พื้นที่เพื่อจำหน่ายสินค้าหรือบริการ รับงานจ้างเหมาบริการ ฝึกงาน เข้ารับการอบรมในหลักสูตรประกอบอาชีพและรับความช่วยเหลืออื่นใด โดยมีกรมการจัดหางานเป็นหน่วยงานรับเรื่องการขอใช้สิทธิของคนพิการ และรับเรื่องยื่นให้สิทธิตามมาตรา 35 จากนายจ้าง/สถานประกอบการ ซึ่งเปิดรับแจ้งตั้งแต่บัดนี้ – 31 ธันวาคม 2563 โดยมีหลักเกณฑ์ว่า การจัดทำสัญญาขอใช้สิทธิของทั้งสองฝ่ายเป็นไปโดยสมัครใจ มูลค่าของสัญญาไม่น้อยว่า 112,420 บาทต่อปี และรายชื่อคนพิการที่ขอใช้สิทธิจะต้องไม่ซ้ำซ้อนกัน จากการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2563 ที่ผ่านมา มีคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการมาใช้บริการขึ้นทะเบียนขอใช้สิทธิตามมาตรา 35 จำนวน 14,400 ราย ได้รับสิทธิตามมาตรา 35 จำนวน 14,390 ราย คิดเป็นร้อยละ 99.9

        สำหรับคนพิการที่ต้องการหางาน และสถานประกอบการที่มีความประสงค์จะจ้างคนพิการเข้าทำงานสามารถติดต่อขอรับบริการ ได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก