พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทยและคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่จังหวัดสุโขทัย โดยมีนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย รายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จากปริมาณฝนที่ตกอย่างหนักในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จังหวัดสุโขทัยได้บริหารจัดการน้ำในแม่น้ำยมบริเวณเหนือประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ อำเภอสวรรคโลก ด้วยการผันน้ำเข้าสู่คลองหกบาทในอัตรา 350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมกับควบคุมปริมาณน้ำผ่านประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ไม่เกิน 750 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อให้ปริมาณน้ำผ่านตัวเมืองสุโขทัยไม่เกิน 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่เนื่องจากปริมาณน้ำที่ไหลมาจากจังหวัดแพร่มีมากกว่า 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เกินศักยภาพการบริหารจัดการในพื้นที่ ส่งผลให้กระแสน้ำกัดเซาะคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำยมที่เป็นคันดิน และที่กำลังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จในพื้นที่อำเภอสวรรคโลก ศรีสำโรง และอำเภอเมืองสุโขทัย ได้รับความเสียหายรวม 19 จุด กระแสน้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนอย่างรวดเร็ว ระดับน้ำที่ท่วมขังบางแห่งลึกกว่า 1 เมตร 50 เซนติเมตร ประชาชนได้รับความเดือดร้อนรวม 11,872 ครัวเรือน 35,792 คน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 86 หลัง พื้นที่การเกษตรเบื้อต้นพบได้รับความเสียหายแล้วกว่า 75,711 ไร่ ถนนมีน้ำท่วมขังไม่สามารถใช้การได้ 17 สาย

        จังหวัดสุโขทัยได้เร่งทำการช่วยเหลือประชาชนขนย้ายสิ่งของ สัตว์เลี้ยง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ไปยังที่ปลอดภัย จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ประสบภัยเพื่อให้ความช่วยเหลือและดูแลความปลอดภัยประชาชนอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง จัดตั้งโรงครัวจิตอาสาขึ้นที่ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย และที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย เพื่อประกอบอาหารแจกผู้ประสบภัยทุกวันไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ขณะที่พื้นที่เศรษฐกิจหลักในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ราชการจังหวัดไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขตเมืองมีไม่เกิน 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

        ภายหลังจากรับฟังบรรยายสรุป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในทุกระดับและขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการดูแลเรื่องอาหารและน้ำดื่มซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่อย่างเพียงพอและทั่วถึง พร้อมกับกำชับให้เร่งสำรวจความเสียหายสิ่งสาธารณประโยชน์ พื้นที่การเกษตร ความเสียหายของประชาชน และผลกระทบด้านการประกอบอาชีพ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วต่อไป

        จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่พบปะประชาชนผู้ประสบภัยและมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ในนามของรัฐบาล ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลปากแคว อำเภอเมืองสุโขทัย หมู่ที่ 7 ตำบลสามเรือน อำเภอศรีสำโรง และหมู่ที่ 7 ตำบลท่าทอง อำเภอสวรรคโลก