ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

จังหวัดนครศรีธรรมราช มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาคนพิการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากโควิด-19

วันที่ลงข่าว: 10/07/20

        วันที่ 8 ก.ค.63 สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาคนพิการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากในช่วงภาวะวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้ผู้พิการที่อยู่ในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งภาคใต้จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 31 ราย รายละ 1,000 บาท โดยจ่ายเพียงครั้งเดียว เป็นผู้ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ แต่ไม่ได้รับสวัสดิการเบี้ยความพิการรายเดือน เนื่องจากอยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์ของรัฐ มีนายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธาน มีนางอุบล ทองสลับล้วน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช นางสาวธัญพร อุ่นเศียร ผู้ปกครองสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งภาคใต้จังหวัดนครศรีธรรมราช และผู้เกี่ยวข้องร่วมในพิธี

        ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2563 ให้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือเยียวยาคนพิการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เฉพาะคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 คนละ 1,000 บาท โดยจ่ายเพียงครั้งเดียว 

        สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราช มีข้อมูลคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ จำนวน 50,765 คน เป็นคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการที่ไม่เคยได้รับสวัสดิการเบี้ยความพิการ จำนวน 1,402 คน จากการลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงตามรายชื่อ เพื่อจะได้ช่วยเหลือตามมาตรการฯ พบว่ามีบางส่วนย้ายไม่อยู่ในพื้นที่ เสียชีวิต ไม่ได้เป็นคนพิการแต่เป็นผู้ดูแล จดทะเบียนคนพิการเพื่อใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษี ไม่ประสงค์จะรับเบี้ยความพิการ และได้รับการอุปการะอยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐ จากการตรวจสอบปรากฏว่าอยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐ 57 คน 

        สำหรับคนพิการที่รับการช่วยเหลือความพิการมาอย่างต่อเนื่อง กรมบัญชีกลางได้โอนเงินตามมาตรการฯ ให้แก่คนพิการเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม 2563 มีเพียง 34 คน ที่มีบัญชีมีปัญหาซึ่งได้แก้ไข และจ่ายเงินให้คนพิการเรียบร้อยแล้ว ส่วนรายที่จดทะเบียนคนพิการแล้ว แต่ยังไม่เคยรับเบี้ยความพิการ 1,402 คน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราชได้ตรวจสอบและได้โอนเงินเข้าบัญชีคนพิการแล้วบางส่วน

 

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก