ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

แผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) กับแนวทางทางกฎหมายและการปฏิบัติสำหรับคุณพ่อคุณแม่ ตอนที่ 10

โดย ปีเตอร์ ดับบลิว ดี ไรท์และพาเมล่า แดร์ ไรท์ (2003)

วิธีการพัฒนา IEP ที่ใช้วัดความก้าวหน้าของลูกคุณตามสภาวะที่เป็นจริง
คุณพูดว่า –“ฉันยังสับสนอยู่  IEP ที่ได้รับการพัฒนาสำหรับลูกของฉันไม่ได้รวมถึงการวัดความก้าวหน้าตามสภาวะ ที่เป็นจริง  มันถูกเขียนให้แตกต่างได้อย่างไร  ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาก้าวหน้าจริงๆ หรือไม่”

สมมุติว่า  คุณมีลูกชายอายุ 8 ปีชื่อ ไมค์  ไมค์รู้สึกเป็นทุกข์เพราะเขาไม่ผ่านการทดสอบสุขภาพของร่างกาย  ไมค์บอกคุณว่า เขาต้องการผ่านการทดสอบในปีหน้า  เขาขอร้องให้คุณช่วยเหลือ

คุณเรียนรู้ว่า  มีมาตรฐานที่เด็กๆ ต้องบรรลุเพื่อจะผ่านการทดสอบสุขภาพของร่างกาย  ผลการปฏิบัติของเด็กๆ ในกิจกรรมต่างๆ ถูกวัดตามสภาวะที่เป็นจริง  คุณตรวจสอบคะแนนของไมค์  ไมค์วิ่ง 50 หลาในเวลาที่ถูกกำหนด  ทำ sit-up ได้ 12 ครั้งจากที่คาดหวังไว้ 25 ครั้ง  และน้าวตัวขึ้นสูงในการเล่นบาร์เดี่ยวไม่ได้

ทีนี้  คุณและไมค์รู้ว่า อะไรที่จำเป็นต้องทำเพื่อบรรลุเป้าหมายและมีคุณสมบัติดีพอสำหรับรางวัลใน ด้านสุขภาพของร่างกาย  คุณช่วยเขาพัฒนาแผนการฝึกซึ่งรวมถึงวัตถุประสงค์ระยะสั้นที่มุ่งแก้ไขความ อ่อนแอของเขา เช่น sit-up และการน้าวตัวขึ้นสูง  โดยที่ยังคงทำให้ความสามารถในการวิ่งดีขึ้น

เมื่อไมค์ทำการทดสอบสุขภาพของร่างกาย  ผลการปฏิบัติของเขาในการทดสอบต่างๆ ถูกวัดตามสภาวะที่เป็นจริง  ระดับความเร็วในการวิ่งของเขาในระยะทางที่กำหนดถูกวัดด้วยนาฬิกาจับเวลา  ความสามารถที่จะทำการ sit-up และการน้าวตัวขึ้นสูงถูกวัดโดยการนับ  เพราะว่าการวัดเหล่านี้เป็นสภาวะที่เป็นจริง  ใครๆ ที่สังเกตการทดสอบนี้จะรู้ถ้าไมค์บรรลุมาตรฐานสำหรับรางวัล

เควินและการพิมพ์ดีด
ลองดูที่เป้าหมายของ IEP ซึ่งความก้าวหน้าเพื่อบรรลุสู่เป้าหมายนั้นถูกวัดโดยการสังเกตส่วนตัวและตามสภาวะที่เป็นจริง

เป้าหมาย IEP ของเราบอกว่า  “เควินจะเรียนรู้ทักษะการพิมพ์”
ถ้าความก้าวหน้าของเควินเพื่อบรรลุเป้าหมายถูกวัดตามการสังเกตส่วนตัว  IEP ของเขาอาจจะเขียนว่า  ความก้าวหน้าของเควินเพื่อเรียนรู้การพิมพ์ดีดนั้นจะถูกตัดสินโดย “การตัดสินของครู” หรือ “การสังเกตของครู” หรือ “การทดสอบที่ทำโดยครู” ด้วยคะแนน “80%”  เป็นมาตรฐานของความสำเร็จ

ถ้า IEP ถูกเขียนอย่างเหมาะสม มีการวัดความก้าวหน้าตามสภาวะที่เป็นจริง  IEP อาจจะเขียนว่า  เมื่อจบภาคการศึกษาแรก  เควินจะสามารถพิมพ์ดีดสัมผัสได้ 15 คำ ต่อนาที โดยพิมพ์ผิดไม่เกิน 5 ตำแหน่งในเวลาการทดสอบ 5 นาที เมื่อจบปีการศึกษานี้ เควินสามารถพิมพ์ดีดสัมผัสได้ 35 คำต่อนาทีโดยพิมพ์ผิดไม่เกิน 5 ตำแหน่ง

เมแกนและการอ่าน
ลองมาดูที่เมแกนซึ่งมีความยุ่งยากด้านการอ่าน  เมแกนเรียนอยู่เกรดห้า  ตามผลทดสอบความสำเร็จทางการศึกษา  ทักษะการอ่านของเธออยู่ที่ระดับต้นของเกรดสอง  คุณพ่อคุณแม่ของเมแกนร้องขอบริการการศึกษาพิเศษที่จะรักษาปัญหาการอ่านของ ลูกสาว  คุณพ่อคุณแม่ของเธอจะรู้ได้อย่างไรว่า เมแกนได้รับประโยชน์จากโปรแกรมการศึกษาพิเศษ

ถ้าเมแกนได้รับการศึกษาอย่างเหมาะสม  คะแนนการทดสอบของเธอในการอ่านจะเริ่มดีขึ้นเมื่อเธอดำเนินตามกระบวนการรักษา นั้น  IEP ที่เขียนอย่างเหมาะสมควรจะระบุว่า  หลังจากหนึ่งปีของการรักษา  เมแกนจะก้าวหน้าและแก้ปัญหาในการอ่านได้  รวมทั้งความก้าวหน้าทางการศึกษาของเธอจะถูกวัดตามสภาวะที่เป็นจริงด้วยการ ทดสอบผลสำเร็จทางการศึกษา

IEP อาจจะเขียนว่า  หลังจากหนึ่งปีของการสอนเป็นพิเศษ “เมแกนจะสามารถอ่านได้เท่าระดับเกรดสี่โดยถูกวัดจากคะแนนของเธอในการทดสอบ การอ่านของแบบทดสอบความสำเร็จของ วู้ดค็อค-จอห์นสัน” ในปีต่อไป  IEP ของเมแกนควรจะรวมเป้าหมายที่เพิ่มขึ้นในการอ่าน โดยเป้าหมายท้ายที่สุดคือการแก้ปัญหาทักษะการอ่าน

คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ระดับเปอร์เซ็นไทล์ใน IEP ทดแทนคะแนนเทียบเท่าเกรดได้

ลองสมมุติว่า  คะแนนการทดสอบการอ่านของเมแกนแสดงว่า  เธอสามารถอ่านได้ที่ระดับล่างเปอร์เซ็นไทล์ที่ 10  เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กๆ อายุวัยเดียวกัน  หลังจากหนึ่งปีของการศึกษาพิเศษที่เหมาะสม  บางทีเมแกนจะไม่สามารถอ่านได้ในระดับเปอร์เซ็นไทล์ที่ 50  (เช่นระดับ “เฉลี่ย” สำหรับเด็กๆ วัยเดียวกัน)  วัตถุประสงค์อาจจะเขียนว่า  หลังจากหนึ่งปีของการศึกษาพิเศษ  “เมแกนจะสามารถอ่านได้ที่ระดับเปอร์เซ็นต์ไทล์ที่ 25”  ถ้าเมแกนเลื่อนไปที่ระดับเปอร์เซ็นต์ไทล์ที่ 25 ในการอ่าน  ถือว่าเธอกำลังก้าวหน้าเพื่อแก้ไขปัญหานั้น

แม้ว่าทักษะการอ่านของเมแกนยังอยู่ต่ำกว่าระดับเฉลี่ย  คุณจะเห็นว่า  เธอก้าวหน้าอย่างสม่ำเสมอ  ความก้าวหน้าของเมแกนในการอ่านถูกวัดตามสภาวะที่เป็นจริงด้วยแบบทดสอบที่ ได้มาตรฐาน  ความก้าวหน้าของเธอถูกรายงานด้วยตัวเลขซึ่งสามารถนำมาเปรียบเทียบตลอดช่วง เวลา

ขั้นตอนแรก
ทำบัญชีข้ออ่อนด้อยของลูกคุณ เช่น การเขียน  คณิตศาสตร์  การสะกด  การพิมพ์ดีด เป็นต้น  จดระดับผลการปฏิบัติในปัจจุบันของลูกคุณด้วยนิยามที่วัดได้ตามสภาวะที่เป็น จริง  ตัวอย่างเช่น

ระดับปัจจุบัน: ลูกของฉันอ่านออกเสียงข้อความหนึ่งข้อความที่ระดับเทียบเท่าเกรด.XYZ....... ตามที่ถูกวัดโดยแบบทดสอบการอ่านออกเสียงของเกรย์ (Gray Oral  Reading Test หรือ GORT)

หรือ

ลูกของฉันสามารถอ่านอยู่ในระดับเปอร์เซ็นต์ไทล์ที่ XYZ  ตามที่วัดโดย GORT

ตัวอย่างเหล่านี้สามารถนำไปใช้กับความพิการทุกประเภท – การบกพร่องทางการเรียนรู้  ออทิสติก  ความบกพร่องทางภาษาและการพูด  ปัญญาอ่อน  สมองพิการหรือ Cerebral Palsy - CP คุณจำเป็นต้องรู้เป็นการเฉพาะว่าความบกพร่องของเด็กอยู่ที่ไหน  ทักษะอะไรที่บกพร่อง  ความประพฤติอะไรที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง

จุดเริ่มต้นควรจะถูกสังเกตได้และวัดได้เป็นระดับเปอร์เซ็นต์ไทล์  ระดับเกรดที่เทียบเท่า  อายุที่เทียบเท่าหรือคะแนนมาตรฐาน  ทักษะนี้ควรจะอยู่ตรงไหนในปีต่อมา  ใช้นิยามการวัดตามสภาวะที่เป็นจริงไม่ใช่นิยามการสังเกตที่เป็นส่วนตัว

เขียนเป้าหมายลงไปว่า  ลูกของคุณควรจะบรรลุอะไรหลังจากหนึ่งปีของการศึกษาพิเศษที่เหมาะสม  (การศึกษาพิเศษควรจะถูกออกแบบเพื่อรักษาจุดอ่อนของเด็ก)

เป้าหมายตัวอย่าง
เมื่อถึง 15 พฤษภาคม (หนึ่งปีต่อมา) ลูกของฉันจะสามารถอ่านข้อความด้วยปากเปล่าที่ระดับเกรดที่เทียบเท่า XZY  (ใส่ระดับเกรดที่เหมาะสมลงไป) ตามที่ถูกวัดโดย GORT 
หรือ
เมื่อถึง 15 พฤษภาคม (หนึ่งปีต่อมา) ลูกของฉันจะสามารถอ่านข้อความด้วยปากเปล่าที่ระดับเปอร์เซ็นต์ไทล์ที่ XYZ  (ใส่ระดับที่เหมาะสมลงไป) ตามที่ถูกวัดโดย GORT

ตอนนี้ คุณมีจุดเริ่มต้นและจุดจบที่วัดได้ตามสภาวะที่เป็นจริง  โดยใช้ข้อมูลอ้างอิงมาตรฐาน  คุณจะเริ่มจากจุด A ไปจุด B ได้อย่างไร

แผนที่ของคุณจากจุด A ไปจุด B รวมถึงวัตถุประสงค์ระยะสั้นและจุดมาตรฐาน  การที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับเป้าหมาย  วัตถุประสงค์และจุดมาตรฐานที่เหมาะสม  คุณจำเป็นจะต้องอ่านสิ่งตีพิมพ์เกี่ยวกับความพิการโดยเฉพาะของลูกคุณ  เมื่อคุณมีความรู้มากขึ้น  คุณจะเรียนรู้วิธีเขียนวัตถุประสงค์และจุดมาตรฐานซึ่งนำไปสู่เป้าหมายรายปี

IEP ของลูกคุณควรจะวัดการเรียนรู้ตามสภาวะที่เป็นจริง
การเรียนรู้คือการเปลี่ยนแปลง  การเปลี่ยนแปลงในทักษะทางวิชาการสามารถวัดได้ตามสภาวะที่เป็นจริง  คะแนนการทดสอบของลูกคุณเป็นเหมือนกับชุดรูปภาพ- มันแสดงว่าเด็กกำลังเรียนรู้และแสวงหาทักษะหรือความรู้ใหม่

จำไว้ว่า:  การเปลี่ยนแปลงสามารถและควรจะถูกวัดตามสภาวะที่เป็นจริง  ไม่ว่ามันจะเป็นการวัดสมรรถนะทางร่างกาย  ลำคออักเสบ หรือความก้าวหน้าทางการศึกษา

(จบ)

แปลและเรียบเรียงจาก Your Child’s IEP: Practical and Legal Guidance for Parents by Peter W.D. Wright and Pamela Darr Wright (2003) จาก http://www.ldonline.org
โดย พรรษชล ศรีอิสราพร

ภาพประกอบบทความหน้าต่าง LD

แบบประเมินคุณภาพสื่อ สสพ.

คุณพอใจกับคุณภาพสื่อข้างต้นมากน้อยเพียงใด
  • พอใจมาก0
  • พอใจ0
  • ปานกลาง0
  • ไม่พอใจ0
  • ไม่พอใจมาก0
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก