การช่วยเหลือเด็กแอลดีที่บกพร่องทางด้านการอ่านให้มีประสิทธิภาพ
คุณแม่ผู้กลุ้มใจคนหนึ่งกล่าวว่า “มีการตีพิมพ์โปรแกรมที่ดีที่สุดสำหรับสอนเด็กๆ อ่านหนังสือมากมาย แต่ลูกสาวของฉันมีความบกพร่องทางด้านการเรียนรู้และดิ้นรนอย่างหนักกับการอ่าน โปรแกรมเหล่านี้จะช่วยเธอไหม ฉันทนดูเธอล้าหลังคนอื่นไม่ได้”
โชคดีที่เมื่อหลายปีมานี้ การศึกษาวิจัยดีๆ ที่ตีพิมพ์ออกมาได้ช่วยคุณพ่อคุณแม่และนักการศึกษาให้เข้าใจแนวทางที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่จะสอนให้เด็กทุกคนอ่านหนังสือ แต่จนปัจจุบัน บุคคลทั่วไปได้รับรู้น้อยมากเกี่ยวกับการวิจัยเรื่องการช่วยเหลือเด็กๆ ที่บกพร่องทางการเรียนรู้ให้อ่านหนังสือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทความนี้จะบรรยายเรื่องการค้นพบในการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งซึ่งจะช่วยคุณให้กลายเป็นผู้ใช้โปรแกรมการอ่านสำหรับเด็กที่บกพร่องทางการอ่านได้ฉลาดขึ้น
งานวิจัยเปิดเผยวิธีการที่ดีที่สุดที่จะสอนเด็กแอลดีให้อ่านหนังสือ
คุณจะยินดีแน่ที่รู้ว่า ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา มีงานวิจัยจำนวนมากที่ทำกันเพื่อแยกแยะการช่วยเหลือด้านการอ่านที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับนักเรียนแอลดีซึ่งดิ้นรนกับการจดจำคำ และ/หรือการใช้ทักษะความเข้าใจในการอ่าน
ระหว่างปี 1996 ถึงปี 1998 กลุ่มนักวิจัยกลุ่มหนึ่งนำโดย ดอกเตอร์ เอช ลี สแวนสัน
ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาการศึกษาที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่ริเวอร์ไซด์ ได้ดำเนินการสังเคราะห์ผลของการศึกษาวิจัย 92 ชิ้น (ทุกชิ้นยืนอยู่บนวิธีการทางวิทยาศาสตร์) โดยตลอดการวิเคราะห์นั้น ดอกเตอร์สแวนสันได้แยกแยะวิธีการสอนที่เป็นรูปธรรมแน่ชัดและส่วนประกอบการสอนซึ่งพิสูจน์ว่า มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับการเพิ่มการจดจำคำและเพิ่มทักษะความเข้าใจในการอ่านสำหรับเด็กเล็กๆ และเด็กวัยรุ่นที่เป็นแอลดี
บางส่วนของการค้นพบที่เกิดจากการวิเคราะห์นั้นน่าประหลาดใจ ตัวอย่างเช่น ดอกเตอร์สแวนสันชี้ว่า โดยธรรมเนียมนิยมแล้ว การสอนการอ่านแบบการสื่อสารโดยตรงระหว่างคนสองคนถูกพิจารณาว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับนักเรียนแอลดี แม้กระนั้นเรายังพบอีกว่า นักเรียนแอลดีซึ่งได้รับการสอนการอ่านแบบเป็นกลุ่มเล็กๆ เช่นในห้องเสริมวิชาการ จะได้รับประสบการณ์ด้านทักษะเพิ่มขึ้นอย่างมากกว่านักเรียนซึ่งได้รับการสอนแบบแต่ละคน
ในบทความนี้ เราสรุปย่อและอธิบายการค้นพบในการวิจัยของดอกเตอร์สแวนสัน สำหรับคุณที่มีเด็กแอลดีที่เกี่ยวข้องกับการอ่าน เราจะขอเสนอทิบในการฝึกปฏิบัติสำหรับการใช้สิ่งที่ค้นพบในการวิจัยที่จะประเมินโปรแกรมการอ่านโดยเฉพาะนั้น มาดูกันว่า งานวิจัยเปิดเผยอะไรบ้าง
แก่นคำแนะนำที่แข็งแกร่ง
ดอกเตอร์สแวนสันชี้ไว้สอดคล้องกับการทบทวนงานวิจัยชิ้นก่อนๆ ว่า การปฏิบัติตามคำสอนที่ดีรวมถึง การทบทวนประจำวัน เอกสารแสดงจุดประสงค์การสอน การแสดงออกของครูถึงเนื้อหาใหม่ๆ การปฏิบัติที่มีการแนะนำ การปฏิบัติแบบอิสระ และการประเมินผลแบบทางการ (เช่น การทดสอบเพื่อให้มั่นใจว่า เด็กคนนั้นเชี่ยวชาญในเนื้อหา) การปฏิบัติเหล่านี้เป็นหัวใจของโปรแกรมการช่วยเหลือด้านการอ่านที่ดีและสะท้อนให้เห็นในส่วนประกอบการสอนที่หลากหลายในบทความนี้
การพัฒนาทักษะการจดจำคำ : อะไรที่ได้ผล
ดอกเตอร์สแวนสันเน้นย้ำว่า ผลลัพธ์ที่สำคัญมากที่สุดของการสอนการจดจำคำคือว่า
นักเรียนเรียนรู้ที่จะจดจำคำที่แท้จริง ไม่ใช่เสียงของคำที่ออกมาในการใช้ทักษะการออกเสียง
นิยามอื่นๆ ที่ครูและมืออาชีพคนอื่นๆ อาจจะใช้อธิบายปัญหาของเด็กด้านการจดจำคำ
- การถอดรหัสคำ
- การออกเสียง
- การระลึกรู้เรื่องปัจจัยของเสียง
- ทักษะการแตกคำ
การสอนทางตรง (direct instruction) ดูจะเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเพื่อทำให้ทักษะการจดจำคำของนักเรียนแอลดีดีขึ้นการสอนทางตรงเกี่ยวโยงถึงทักษะการสอนทางตรงที่บรรยายชัดเจน มันเกี่ยวข้องกับการฝึกฝน/ การทำซ้ำ/ การปฏิบัติและสามารถใช้ได้กับเด็กคนเดียวหรือกลุ่มนักเรียนเล็กๆ ในเวลาเดียวกัน
ส่วนประกอบที่เป็นการสอนสามส่วนประกอบซึ่งพิสูจน์ว่า มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเพิ่มทักษะการจดจำคำของนักเรียนแอลดีอธิบายอยู่ต่อไปนี้ ตามแบบฉบับแล้ว โปรแกรมการอ่านสำหรับการจดจำคำจะรวมไปถึงทั้งสามส่วนประกอบนี้
การเพิ่มทักษะการจดจำคำให้กับเด็กแอลดี
ส่วนประกอบการสอน กิจกรรมและเทคนิคของโปรแกรม
ครู:
- แตกงานออก (เช่น เริ่มโดยให้เด็กแตกคำที่ไม่รู้จัก
การเรียงลำดับ
ออกเป็นเสียงที่เขาสามารถออกเสียงได้)
- ลดการช่วยเหลือลงทีละน้อย
- จับคู่ระดับความยากของงานกับนักเรียน
- เรียงลำดับกิจกรรมสั้นๆ (เช่น แรกเริ่มให้ใช้ 10 นาทีแรกทบทวนคำใหม่ๆ จากบทเรียนก่อน ใช้ 5 นาที่ต่อมาขีดเส้นใต้คำใหม่ๆ ในย่อหน้า และ 5 นาทีสุดท้ายในการฝึกการผสมคำ)
- ให้การช่วยเหลือเป็นลำดับขั้น
ครู:
การแตกย่อย
แตกย่อยทักษะเป้าหมาย ( เช่น แยกแยะคำพูดหรือเสียงอักษร) เป็นหน่วยย่อยๆ หรือส่วนประกอบย่อย (เช่น การออกเสียงแต่ละคำพูดหรือเสียงอักษรในคำนั้น
- แตกย่อยหรือสังเคราะห์ส่วนประกอบ (เช่น การออกเสียงปัจจัยเสียงในคำๆหนึ่ง แล้วผสมเสียงเข้าด้วยกัน
ครู:
การจัดระเบียบล่วงหน้า
ชี้ให้เด็กๆ ดูเนื้อหาที่สำคัญต่อการสอน
- ชี้แนะให้เด็กๆ เพ่งเป้าไปที่เฉพาะเรื่อง
- ตระเตรียมข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับงานที่จะฝึกต่างๆ ให้กับนักเรียน
- บอกจุดประสงค์ของการสอนให้นักเรียนทราบล่วงหน้า
การพัฒนาทักษะความเข้าใจในการอ่าน: อะไรที่ได้ผล
วิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่จะทำให้ความเข้าใจในการอ่านของนักเรียนแอลดีดีขึ้นดูเหมือนจะเป็นการผสมผสามระหว่างการสอนทางตรง (direct instruction) และการสอนโดยเน้นกลวิธี (strategy instruction) การสอนโดยเน้นกลวิธีหมายถึงการสอนการวางแผนหรือกลวิธีให้กับนักเรียนที่จะค้นหารูปแบบในคำต่างๆ และเพื่อแยกแยะย่อหน้าสำคัญและหาความคิดสำคัญในแต่ละย่อหน้า ทันทีที่นักเรียนเรียนรู้กลวิธีที่แน่ชัด เขาก็จะสามารถสรุปนำออกมาใช้กับงานความเข้าใจในการอ่านชิ้นอื่นๆ ได้ ส่วนประกอบการสอนเหล่านี้พบว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับการทำให้ทักษะความเข้าใจในการอ่านของนักเรียนแอลดีดีขึ้น ดังที่แสดงในตารางต่อไปนี้ ตามหลักการแล้ว โปรแกรมที่จะทำให้ความเข้าใจในการอ่านดีขึ้นควรจะรวมส่วนประกอบทั้งหมดที่แสดง
การทำให้นักเรียนแอลดีมีความเข้าใจในการอ่านดีขึ้น
ส่วนประกอบการสอน กิจกรรมและเทคนิคของโปรแกรม
ครู:
- ถามคำถาม
การโต้ตอบโดยตรง/การถามคำถาม
สนับสนุนนักเรียนให้ถามคำถาม
ครูและนักเรียน
- ร่วมกันสนทนา
ครู:
- เตรียมความช่วยเหลือ (เท่าที่ต้องการ)
ควบคุมความยากของกระบวนการงานที่ต้องการ
ทำการสาธิตอย่างง่าย
- เรียงลำดับงานจากง่ายไปยาก
- นำเสนอขั้นตอนหรือความคิดรวบยอดที่ง่ายก่อนแล้วจึงไปสู่ขั้นตอนหรือความคิดรวบยอดที่ก้าวหน้าและยากกว่า
- ให้นักเรียนควบคุมระดับของความยาก
กิจกรรม:
- สั้นๆ
กิจกรรม:
การบรรยายอย่างละเอียด
ให้ข้อมูลหรือคำอธิบายเพิ่มเติมแก่นักเรียนเกี่ยวกับความคิดรวบยอด ขั้นตอน หรือกระบวนการ
- ใช้เนื้อหาซ้ำๆ
รูปแบบของขั้นตอนโดยครู ครูสาธิตกระบวนการหรือขั้นตอนให้นักเรียนทำตาม
การสอนและ/หรือการโต้ตอบทางคำพูดเกิดขึ้นในกลุ่มเล็กๆ
ที่ประกอบด้วยครูและนักเรียน
ครู:
- เตือนนักเรียนให้ใช้กลวิธีหรือขั้นตอนแบบหลายขั้นตอน
- อธิบายขั้นตอนหรือกระบวนการที่จะแก้ปัญหา
กิจกรรม:
- ใช้รูปแบบ “การคิดดังๆ”
- ทำบัญชีประโยชน์ของการใช้กลวิธีหรือกระบวนการ
ความหวังและทำงานหนัก ไม่ใช่ความมหัศจรรย์
สุดท้าย ดอกเตอร์สแวนสันให้ระวังว่า “ไม่มีการรักษาที่มหัศจรรย์สำหรับการบกพร่องทางการอ่าน” แม้แต่โปรแกรมการอ่านที่ดีก็ยังต้องการให้นักเรียนและครูยืนหยัดทำงานอย่างมั่นคงเพื่อความเชี่ยวชาญในการอ่าน
ความรู้คืออำนาจ และการค้นพบในการศึกษาของดอกเตอร์สแวนสันได้นำเสนอโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับครูและคุณพ่อคุณแม่ที่จะประเมินและคัดเลือกการช่วยเหลือทางการอ่านที่เป็นไปได้มากที่สุดที่จะนำเด็กๆ ไปสู่ความสำเร็จในการอ่าน
แปลและเรียบเรียงโดย พรรษชล ศรีอิสราพร