ปัญหาบกพร่องทางการอ่านกับการสะกดคำ ตอนที่ 2
ระบบการสะกดคำในภาษาอังกฤษช่วยให้สามารถเดาคำศัพท์ ได้หรือไม่
ระบบ การสะกดคำในภาษาอังกฤษไม่ได้เป็นเรื่องที่ชวนปวดหัวและเดาไม่ได้ เราสามารถจะสอนอย่างเป็นระบบและเป็นเหตุเป็นผล คำในภาษาอังกฤษเกือบครึ่งหนึ่งเป็นคำที่เดาได้และอยู่บนพื้นฐานของเสียงตัว อักษรจริงๆ เช่นคำว่า slap pitch boy อีก 37% เป็นคำธรรมดาที่คุ้นเคยที่เกือบจะเดาได้ ยกเว้น คำเสียงเดียว เช่น Knit และ boat
ข้อมูลอื่นๆ เช่น คำที่มาจากภาษาอื่น อย่าง ภาษาอังกฤษแบบเก่า ภาษาละติน ภาษากรีก หรือภาษาฝรั่งเศส ความหมายของคำเหล่านั้นจะช่วยให้สามารถอธิบายการสะกดคำได้ มีคำในภาษาอังกฤษ 4% เท่านั้นที่ผิดปกติไปจริงๆและอาจจะต้องเรียนรู้ผ่านวิธีการในเรื่องคำทั้ง หมด เช่น การสืบสาวที่มาของคำและการเอ่ยเป็นตัวอักษรขณะที่กำลังพยายามจดจำคำ เพราะฉะนั้น จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ที่จะสอนการสะกดคำอย่างเป็นระบบและสนับสนุนให้นัก เรียนที่มีปัญหาอย่างยิ่งยวดในการจดจำคำมีวิธีสังเกตแบบเป็นเหตุเป็นผลอย่าง มาก
ผลกระทบต่อการสอนเป็นอย่างไร
การสอนการ สะกดคำโดยการสำรวจโครงสร้างคำ ที่มาของคำ และความหมายของคำถือเป็นเรื่องที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด แม้ว่านักเรียนที่มีปัญหาบกพร่องทางการอ่านอาจจะยังต้องลำบากในการระลึกคำ ออกมาใช้ การเน้นย้ำเรื่องการจดจำโดยใช้วิธีขอให้นักเรียนปิดตาและจินตนาการเป็นคำ หรือการขอให้เขาเขียนคำเหล่านั้นหลายๆครั้งจนกระทั่ง “ติดตา” จะเป็นประโยชน์ได้เพียงหลังจากเมื่อนักเรียนได้ถูกสอนให้เข้าใจว่าทำไมคำๆ นั้นจึงสะกดอย่างนั้น เป็นนักเรียนซึ่งได้เรียนรู้ความเชื่อมโยงระหว่างเสียงที่กล่าวออกมาและ สัญญลักษณ์ที่เขียน เป็นนักเรียนที่เข้าใจรูปแบบตัวอักษรที่ประกอบขึ้นมาในพยางค์ภาษาอังกฤษ และเป็นนักเรียนที่รู้จักส่วนของคำที่มีความหมายได้ดีกว่าการจำคำทั้งหมด ควรจะมีการจัดโปรแกรมการสะกดคำในชั้นเรียนเพื่อสอนความก้าวหน้าของรูปแบบการ สะกดคำที่เป็นปกติ หลังจากเกรด 1 แล้ว ควรสอนการสะกดคำตามมารวมทั้งสอนเรื่องการถอดคำเพื่อการอ่านด้วย เด็กๆควรจะสามารถอ่านคำต่างๆในบทเรียนการสะกดคำ ผู้เรียนส่วนใหญ่สามารถอ่านคำต่างๆได้มากกว่าการสะกดคำมาก
ความเข้า ใจเรื่องความเชื่อมโยงระหว่างเสียงและตัวอักษรเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ อันดับแรก ตัวอย่างเช่น ก่อนการสะกดคำ นักเรียนควรสามารถแยกเสียงในคำออกจากกันได้ จากนั้น เขาควรสามารถระลึกได้ถึงตัวอักษรที่สะกดเสียงเหล่านั้น ต่อจากนั้นจึงควรจะสอนรูปแบบเรื่องชนิดของพยางค์พื้นฐาน 6 ประเภทในภาษาอังกฤษ * เพราะว่ามันใช้แทนเสียงสระที่สามารถเดาได้ ประการที่สาม คือการสอนกฎพื้นฐานบางอย่างในการเติมและลงท้ายคำ เช่น เมื่อไรตัวอักษรควรเป็นสองตัว เมื่อไรที่ y เปลี่ยนเป็น I และเมื่อไรเสียง e ถึงไม่ออกเสียง
ยังมีคำผิดปกติที่ควรจะฝึกฝนใช้ ทุกวัน เช่น come they their who การสืบสาวที่มาของคำและการเอ่ยตัวอักษรออกมาดังๆ การสร้างคำด้วยการต่อตัวอักษร การคัดลอกและการเขียนเป็นประโยค ล้วนแต่ช่วยสร้างการจดจำคำที่ผิดปกติ นักเรียนอาจจะสามารถจัดการกับคำใหม่ๆได้ถึงสองสามคำในครั้งหนึ่ง และเขาอาจจะต้องการหลายๆ โอกาสที่จะเขียนคำต่างๆให้ถูกถ้วนพร้อมกับการรับคำปรึกษาก่อนที่เขาจะสามารถ จดจำมันได้ การเรียนรู้คำต่างๆและฝึกฝนทำแบบฝึกหัดเพื่อให้ใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว โดยการเขียนคำหรือประโยคตามคำบอกก็จะช่วยได้มาก การให้นักเรียนทำรายการ “ตัวอย่างการสะกดคำ” เป็นการเฉพาะของตนเองเพื่ออ้างอิงจะช่วยพัฒนาความสามารถในการอ่านพิสูจน์ อักษรและช่วยให้เชี่ยวชาญในการสะกดคำที่ยากๆเหล่านั้น
เป็นเรื่อง สำคัญสำหรับนักเรียนที่จะเรียนการสะกดคำเพื่อการเขียน ไม่ใช่เพียงเพื่อการทดสอบการสะกดคำ การให้ความสำคัญกับการสะกดคำในการเขียนทุกๆวันเป็นเรื่องจำเป็น มันจะช่วยมากถ้าได้สอนนักเรียนให้ใช้กระบวนการพิสูจน์อักษรโดยการทดสอบเพียง เรื่องเดียวในแต่ละครั้ง เช่นเรื่อง การใส่จุดเครื่องหมายวรรคตอน การเลือกใช้อักษรตัวเล็กตัวใหญ่ การสะกดคำ โครงสร้างประโยคและการจัดองค์ประกอบ
โปรแกรมตรวจสอบการสะกดคำใน คอมพิวเตอร์จะไม่ช่วยอะไรถ้านักเรียนไม่มีทักษะการสะกดคำพื้นฐาน ในระดับ เกรด 5 และถ้านักเรียนไม่ได้รับการช่วยเหลือในการพิสูจน์อักษรอื่นๆ โปรแกรมตรวจสอบการสะกดคำจะไม่ระบุจุดผิดพลาดทั้งหมด
การให้ความช่วยเหลือที่สำคัญและการปรับงานการบ้านให้กับนักเรียนที่มีปัญหาบกพร่องทางการอ่านมีดังต่อไปนี้
- ให้คะแนนงานเขียนที่เนื้อหาเป็นหลัก
- เขียนคำสะกดที่ถูกไว้เหนือคำที่เขียนผิดและจำกัดจำนวนครั้งการเขียนใหม่ด้วยจำนวนที่เหมาะสม
- เตรียมการช่วยเหลือพิสูจน์อักษร
- สนับสนุนนักเรียนให้คิดเป็นคำที่ชัดเจนก่อนการเขียนและสะกดคำที่เป็นข้อความสำคัญต่างๆให้ด้วยก่อนในการเขียน
- อนุญาตให้นักเรียนในระดับมัธยมและระดับที่สูงกว่าใช้การพิมพ์ในการสอบและงานที่ส่ง
- สนับสนุนนักเรียนให้ส่งโครงร่างงานที่ให้หรือเรียงความให้ครูช่วยทบทวนก่อนให้คะแนน
โดย พรรษชล ศรีอิสราพร ส่วนสื่อการศึกษาเพื่อคนพิการ ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา