“การขับเคลื่อนงานด้านต่างประเทศของสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย”
ดร.นันทนุช สุวรรนาวุธ กล่าวว่า งานต่างประเทศ ทางสมาคมมีงานหลักๆ คือ การขับเคลื่อนทั้งด้านนโยบาย คุ้มครองปกป้องสิทธิ ส่งเสริมสิทธิของคนตาบอดในประเทศไทย ซึ่งมีหลายๆ เรื่อง อาทิ ด้านการศึกษา ด้านสุขภาพ ด้านอาชีพ เป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้นเราไม่สามารถอยู่โดดเดี่ยวได้ โดยเฉพาะตอนนี้ที่ประเทศเปิดแล้ว การสื่อสารมีเครือข่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้รับความร่วมมือเป็นการแลกเปลี่ยนทางด้านความรู้ ประสบการณ์ ในปัจจุบันมีเครือข่ายในระดับโลก ระดับภูมิภาค อนุภูมิภาค ที่สำคัญคือ สหภาพคนตาบอดโลก ซึ่งประเทศไทยอยู่ในทวีปเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้รับความร่วมมือจากประเทศสมาชิกที่กระจายตัวอยู่ในทวีปต่างๆ
การดูแลเครือข่ายองค์กรของสหภาพคนตาบอดโลกจัดเป็นระบบประเทศสมาชิก คือ เป็นองค์กรระดับชาติซึ่งสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ถือเป็นองค์กรในประเทศไทย มูลนิธิคอลร์ฟีลด์เพื่อคนตาบอด พร้อมกับมูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมสตรีตาบอดในประเทศไทย เป็นภาคีเครือข่ายซึ่งคล้ายๆ กับระบบผู้แทนที่แต่ละประเทศมีจำนวนโควต้าผู้แทนได้ไม่เกินกี่คน สำหรับประเทศไทยมีผู้แทนไม่เกินเจ็ดคน มีการจัดประชุมในระดับโลกทุก 4 ปี
ในส่วนภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพตั้งแต่ปี 2544 และประเทศไทยได้รับเกียรติ รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อีกครั้งเมื่อ พฤศจิกายน พ.ศ.2566
ทางสมาคมฯ ได้ส่งผู้แทนไปเข้าร่วมการประชุมของทางสหภาพคนตาบอดโลกซึ่งมีการประชุมของคณะกรรมการที่ว่าด้วยการศึกษาโครงสร้างระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาค และมีเครือข่ายจากประเทศต่างๆ ที่ติดต่อกับประเทศไทย มีการส่งตัวแทนไปร่วมการประชุมสัมมนาหรือเป็นการติดต่อขอข้อมูล การขอให้ช่วยทำแบบสำรวจ เช่น เวลาจะผลักดันด้านนโยบายด้านการใช้รถมีเสียง ความปลอดภัยบนท้องถนนคนตาบอดซึ่งตอนนี้มีเรื่องรถที่เป็นระบบไฮบริดซึ่งเงียบมาก เขาต้องการผลักดันจะสอบถามว่าในแต่ละประเทศมีปัญหาอย่างไรเพื่อรวบรวมไปขับเคลื่อนในระดับนานาชาติต่อไป
ทางสหภาพคนตาบอดโลกด้วยความที่เป็นเอเชียแปซิฟิก ทางอาชีพนวดค่อนข้างโดดเด่นถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ มีคณะกรรมการที่ค่อนข้างเป็นอิสระ เรียกว่าคณะกรรมการการนวดแห่งเอเชียและแปซิฟิก ซึ่งมีการจัดประชุมขึ้นทุกๆ 2 ปี คือ เป็นการแลกเปลี่ยนทั้งในเชิงวิชาการว่า วิชาการทางการนวดของแต่ละประเทศ การให้บริการ มาตรฐานเป็นอย่างไร ถึงไหนแล้ว โดยมีกำหนดจัดขึ้นที่ประเทศเวียดนามในเดือนกันยายน พ.ศ.2566 ซึ่งการประชุมครั้งนนั้นประเทศไทยมีการส่งตัวแทนไปเข้าร่วมในการประชุมครั้งนั้น
การดูแลเครือข่ายองค์กรของสหภาพคนตาบอดโลกจัดเป็นระบบประเทศสมาชิก คือ เป็นองค์กรระดับชาติซึ่งสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ถือเป็นองค์กรในประเทศไทย มูลนิธิคอลร์ฟีลด์เพื่อคนตาบอด พร้อมกับมูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมสตรีตาบอดในประเทศไทย เป็นภาคีเครือข่ายซึ่งคล้ายๆ กับระบบผู้แทนที่แต่ละประเทศมีจำนวนโควต้าผู้แทนได้ไม่เกินกี่คน สำหรับประเทศไทยมีผู้แทนไม่เกินเจ็ดคน มีการจัดประชุมในระดับโลกทุก 4 ปี
ในส่วนภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพตั้งแต่ปี 2544 และประเทศไทยได้รับเกียรติ รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อีกครั้งเมื่อ พฤศจิกายน พ.ศ.2566
ทางสมาคมฯ ได้ส่งผู้แทนไปเข้าร่วมการประชุมของทางสหภาพคนตาบอดโลกซึ่งมีการประชุมของคณะกรรมการที่ว่าด้วยการศึกษาโครงสร้างระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาค และมีเครือข่ายจากประเทศต่างๆ ที่ติดต่อกับประเทศไทย มีการส่งตัวแทนไปร่วมการประชุมสัมมนาหรือเป็นการติดต่อขอข้อมูล การขอให้ช่วยทำแบบสำรวจ เช่น เวลาจะผลักดันด้านนโยบายด้านการใช้รถมีเสียง ความปลอดภัยบนท้องถนนคนตาบอดซึ่งตอนนี้มีเรื่องรถที่เป็นระบบไฮบริดซึ่งเงียบมาก เขาต้องการผลักดันจะสอบถามว่าในแต่ละประเทศมีปัญหาอย่างไรเพื่อรวบรวมไปขับเคลื่อนในระดับนานาชาติต่อไป
ทางสหภาพคนตาบอดโลกด้วยความที่เป็นเอเชียแปซิฟิก ทางอาชีพนวดค่อนข้างโดดเด่นถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ มีคณะกรรมการที่ค่อนข้างเป็นอิสระ เรียกว่าคณะกรรมการการนวดแห่งเอเชียและแปซิฟิก ซึ่งมีการจัดประชุมขึ้นทุกๆ 2 ปี คือ เป็นการแลกเปลี่ยนทั้งในเชิงวิชาการว่า วิชาการทางการนวดของแต่ละประเทศ การให้บริการ มาตรฐานเป็นอย่างไร ถึงไหนแล้ว โดยมีกำหนดจัดขึ้นที่ประเทศเวียดนามในเดือนกันยายน พ.ศ.2566 ซึ่งการประชุมครั้งนนั้นประเทศไทยมีการส่งตัวแทนไปเข้าร่วมในการประชุมครั้งนั้น
... สามารถติดตามรับฟังรายการรวมใจเป็นหนึ่ง ได้ทางสถานีวิทยุศึกษา FM 92 MHz หรือ www.moeradiothai.net/

