ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

“คนตาบอดญี่ปุ่นกับการส่งเสริมการอ่านหนังสือในประเทศไทย”

บทสัมภาษณ์ : คุณโยชิมิ โฮริอุชิ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิหนอนหนังสือในประเทศไทย
          คุณโยชิมิ โฮริอุชิ แนะนำตัวว่า ชื่อเล่น โย อยู่ประเทศไทยครั้งแรกตอนอายุ 27 ปี ในปี พ.ศ. 2553 ได้ตั้งกลุ่มอาสาเพื่อทำงานด้านการรักการอ่านในเมืองไทย โดยส่วนตัวชอบอ่านหนังสือตั้งแต่อายุ 3 – 4 ขวบ แต่คนที่อ่านให้ฟังคือ คุณตา ส่วนใหญ่จะไม่ใช่นิทาน เพราะว่านิทานมีภาพเยอะ เนื้อเรื่องจะน้อย ชอบฟังเป็นพวกวรรณกรรมหรือสารคดีสำหรับเด็ก ดิฉันเป็นเด็กบ้านนอก เป็นคนตาบอด ครอบครัวทำงานกันทุกคนไม่มีเวลาที่พาไปไหนมาไหน เกิดที่จังหวัดโคจิของประเทศญี่ปุ่น สาเหตุที่ชอบอ่านหนังสือเพราะรู้สึกว่า หนังสือมีพลังทำให้มองเห็นหลายอย่างที่อยู่ไกลตัวเรา หนังสือแต่ละเล่มมีเรื่องราวต่างๆ ทำให้สัมผัสชีวิตสิ่งต่างๆ ที่ไกลตัวเราหรือสังคมของเรา เมื่ออ่านแล้วทำให้ได้ประสบการณ์ผ่านตัวละครในหนังสือเล่มนั้นดิฉันคิดว่าสำคัญ สำหรับคนที่อยู่ต่างจังหวัดหรืออยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก เช่น ครอบครัวเด็กที่มีฐานะสามารถไปต่างประเทศได้ พาไปผจญภัยได้ แต่สำหรับครอบครัวที่ฐานะยากจนอยู่ในชุมชนต่างจังหวัดอาจจะไม่ค่อยได้รับโอกาส
         ต่อมาได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยส่วนตัวดิฉันพอจะมีพื้นฐานภาษาไทย ซึ่งได้ศึกษาตั้งแต่มัธยมปลายที่ญี่ปุ่น โดยนักศึกษาคนไทยที่เป็นสายตาเลือนรางเป็นคนสอนภาษาไทยพื้นฐานให้ และไปเป็นเด็กแลกเปลี่ยนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เจอเพื่อนคนไทยจึงสนใจภาษา เค้าน่ารักดีและสนใจวัฒนธรรมไทย สังคมไทยเพราะได้ยินจากเพื่อนๆ คนไทย รู้สึกว่ามีจุดคล้ายกับสังคมญี่ปุ่น มีจุดไม่เหมือนสังคมญี่ปุ่นด้วยซึ่งเป็นประเทศที่น่าสนใจ จึงทราบว่าคนไทยไม่ชอบอ่านหนังสือเพราะว่าไม่เคยเห็นเพื่อนๆ ไปห้องสมุด
         ที่มาของมูลนิธิหนอนหนังสือ เริ่มต้นที่ตอนมัธยมปลายอยากทำงานด้านสังคมเพราะรู้สึกว่า ตนเองเป็นภาระต่อสังคมและเป็นคนพิการอีกด้วย มีแต่คนมาช่วยอย่างเวลาไปไหนในที่ใหม่ๆ ต้องมีคนนำทางทำให้รู้สึกว่าเป็นภาระและอึดอัดเป็นอย่างมาก จึงอยากเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับในเวลาเดียวกัน ในปี 2552 ได้รับโอกาสไปศึกษาในสถานบันการศึกษาที่ประเทศอินเดีย ซึ่งสอนเกี่ยวกับการก่อตั้งและบริหารองค์กรหรือว่าบริษัทที่เผชิญปัญหาในสังคม โดยต้องแจ้งความประสงค์ว่า อยากทำอะไรในเมืองไทยจึงย้อนกลับไปคิดว่า สิ่งที่สังเกตได้ในเมืองไทยมีอะไร จึงเจอประเด็นการอ่านคือ คนไทยส่วนใหญ่ยังเข้าไม่ถึงหนังสือ และอย่างน้อยการตั้งองค์กรเพื่อทำงานกับคนที่มองเห็นและเผชิญปัญหาพร้อมๆ กัน โดยการเปิดรับอาสาสมัครมาทำงานร่วมกันในช่วงปีแรกจัดกิจกรรม 1 – 2 เดือนครั้ง โดยเป็นการทำกิจกรรมร่วมกับอาสาสมัคร กิจกรรมส่วนใหญ่เป็นการส่งเสริมการอ่านผสมกับกิจกรรมสนุกสนาม เช่น ไปสวนรถไฟและนำนิทาน หนังสือ วรรณกรรมเยาวชน การ์ตูน ชุดความรู้ต่างๆ ไปตั้งในมุมใดมุมหนึ่งของสวนสาธารณะ และมีพี่ๆ อ่านนิทานให้เด็กๆ ฟัง มีเกมส์ให้เล่น กิจกรรมงานฝีมือ เป็นต้น และจดทะเบียนเป็นมูลนิธิในปี 2559 โดยมีห้องสมุด 1 ห้อง และมีศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กชาติพันธุ์ มูลนิธิตั้งอยู่ที่ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่
         คุณโยชิมิ โฮริอุชิ ทิ้งท้ายว่า “มี 2 ประเด็น คือ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2566 มีกิจกรรมการปั่นจักรยานรับบุญ โดยเริ่มจากกรุงเทพฯ ถึง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ มีนักปั่นหลากหลายประมาณ 11 วัน ซึ่งจะโพสต์ความคืบหน้าในสื่อโซเชียลมีเดีย และสามารถร่วมบริจาคและติดตามข่าวสารได้ที่เฟสบุ๊ค มูลนิธิหนอนหนังสือ และห้องสมุดรังไหม อยากฝากว่าถ้าท่านมีลูกหลานหรือพี่น้องที่อยู่ในวัยเด็ก อยากให้อ่านนิทานหรือหนังสือให้เด็กๆ ฟังไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ผู้ใหญ่ต้องจุดไฟให้เด็กๆก่อนถึงจะได้เปิดโลกของการอ่านได้ อย่างดิฉันเองคุณตาก็ไม่ได้ชอบอ่านหนังสือแต่ท่านอ่านให้ดิฉันฟัง ดิฉันจึงกลายเป็นคนที่รักการอ่านหนังสือ ทำให้เป็นงานอดิเรกที่อยู่กับเราตลอดชีวิต ถ้าคนไทยทุกคนอ่านหนังสือให้ลูกหลานฟังดิฉันคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีกิจกรรมของเราเลย”

... สามารถติดตามรับฟังรายการรวมใจเป็นหนึ่ง ได้ทางสถานีวิทยุศึกษา FM 92 MHz หรือ www.moeradiothai.net รายการรวมใจเป็นหนึ่ง ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ เวลา 11.30 - 12.00 น. ทางสถานีวิทยุศึกษา FM 92 MHz ออกอากาศ : วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 รายการรวมใจเป็นหนึ่ง

ภาพประกอบรายการวิทยุรวมใจเป็นหนึ่ง

แบบประเมินคุณภาพสื่อ สสพ.

คุณพอใจกับคุณภาพสื่อข้างต้นมากน้อยเพียงใด
  • พอใจมาก0
  • พอใจ0
  • ปานกลาง0
  • ไม่พอใจ0
  • ไม่พอใจมาก0
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก