ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

สสว. ร่วมกับ ซอฟต์แวร์พาร์ค สนับสนุน SME รุ่นใหม่ในธุรกิจ Digital สร้างเครือข่ายธุรกิจในไทยและต่างประเทศ

วันที่ลงข่าว: 26/06/17

        สสว. ร่วมกับ ซอฟต์แวร์พาร์ค-สวทช. สนับสนุน SME รุ่นใหม่ในธุรกิจ Digital ขยายฐานลูกค้าและสร้างเครือข่ายกับธุรกิจขนาดใหญ่ทั้งในไทยและต่างประเทศ

        กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย (ซอฟต์แวร์พาร์ค) ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จัดงาน Technology Investment Conference 2017 ในหัวข้อ “Next Generation Businesses” หรือประเด็นธุรกิจยุคใหม่ เพื่อเป็นเวทีสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการลงทุนจากวิทยากรระดับสากล เปิดโอกาสให้บริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่ สถาบันการเงินและเทคสตาร์ทอัพไทยได้เห็นรูปแบบการทำงาน ความร่วมมือและการลงทุนร่วมกัน (Synergy) สร้างโอกาสทางธุรกิจ มุ่งขับเคลื่อนการสร้างนวัตกรรม นำเทคโนโลยีเป็นพื้นฐานทำธุรกิจ เช่น แอปพลิเคชัน เพื่อช่วยสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศยุคไทยแลนด์ 4.0

นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า “ประเทศไทยมี SME ประมาณ 2.8 ล้านกิจการ สร้างอาชีพแก่คนไทยมากกว่า 10 ล้านคน รัฐบาลมีเป้าหมายจะเพิ่มมูลค่าของ SME ให้เป็นร้อยละ 50 ของ GDP ประเทศภายในปี พ.ศ.2564 ปัจจัยที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้ประการหนึ่งคือ สนับสนุนให้ SME รุ่นใหม่ประเภท Tech startup, Smart SME หรือ Smart Farmers ผลิตสินค้า หรือบริการที่มีมูลค่าสูง และสามารถขยายฐานลูกค้าออกไปสู่ตลาดโลกได้ จึงจำเป็นที่จะต้องช่วยสร้างเครือข่ายให้ SME รุ่นใหม่มีโอกาสแสดงศักยภาพต่อธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดกลางที่สนใจจะนำนวัตกรรมของ SME รุ่นใหม่ไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์และนำไปสู่การร่วมลงทุนในอนาคต”

       นายเฉลิมพล ตู้จินดา ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย (ซอฟต์แวร์พาร์ค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า “งาน Technology Investment Conference ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ที่ผ่านมาการพัฒนาและการริเริ่มมากมายในภาคอุตสาหกรรมและชุมชนทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี หรือเทคสตาร์ทอัพ ทั้งจากจำนวนของธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital) ในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวล่าสุดกลางปี 2017 พบว่ามีมากถึง 74 รายแล้ว”

        สำหรับงาน Technology Investment Conference 2017 ในครั้งนี้ ภายในงาน จะมีความร่วมมือระหว่างบริษัทขนาดใหญ่และเทคสตาร์ทอัพ รวมถึงการลงทุนของ CVC การพัฒนาความคิดใหม่ๆ ที่จะแก้ปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างมีศักยภาพ และการเข้าถึงโครงการวิจัยของมหาวิทยาลัยและของรัฐบาล สร้างสภาพแวดล้อมที่จะสร้างความเข้าใจกลไกทางการเงินสำหรับบริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่ในประเด็น “ธุรกิจยุคใหม่” (Next Business Generation) พร้อมการนำเสนอผลงานของเทคสตาร์ทอัพที่น่าสนใจจากการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งอนาคตมาเป็นพื้นฐานในการทำธุรกิจ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), Machine Learning, Chatbot และ Internet of Things (IOT) เป็นต้น

       “การลงทุนในธุรกิจเทคสตาร์ทอัพถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับภูมิภาคอาเซียน และเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและสตาร์ทอัพให้ก้าวไปข้างหน้า การทำความเข้าใจถึงบริษัทขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ที่จะมาร่วมลงทุนกับสตาร์ทอัพ หรือ CVC (Corporate Venture Capital) ว่าเหมาะสมกับธุรกิจที่สตาร์ทอัพทำอยู่หรือไม่นั้น รวมทั้งโอกาสได้รับฟังการแบ่งปันแนวคิดการพัฒนาและกลยุทธ์นวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ทราบถึงกระบวนการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อสร้างสินค้าหรือบริการใหม่ๆ ที่ตรงกับความต้องการของผู้ซื้อและการแข่งขัน และท้ายสุดคือ การนำเสนอและสาธิตเทคโนโลยีใหม่ที่เป็นโครงการวิจัยที่พร้อมสำหรับเชิงพาณิชย์หรือน่าลงทุน นับเป็นแนวโน้มของธุรกิจรุ่นใหม่ ที่จะพบได้ในงาน Technology Investment Conference 2017: Next Generation Businesses”

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก