ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

เสนอราชการปรับโครงสร้างและเพิ่มงบวิจัยรับอาเซียน

วันที่ลงข่าว: 28/01/15

อดีตเลขาธิการอาเซียนแนะราชการเร่งปรับโครงสร้าง และสนับสนุนเพิ่มงบประมาณวิจัย

นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน กล่าวว่า การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะต้องเร่งดำเนินการ 3 เรื่องสำคัญ เรื่องแรกการปรับโครงสร้างภาคราชการครั้งใหญ่ กล่าวคือหน่วยราชการทุกแห่งต้องทบทวนบทบาทตัวเองใหม่ ว่าจะต้องให้บริการใครบ้างในอนาคต เพื่อจะได้ปรับตัวให้สามารถให้บริการได้ตรงจุด ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ) ต้องเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดการทุกหน่วยงานให้พร้อมที่สุด

เรื่องต่อมาคือ การศึกษาและการวิจัย ภาคการศึกษาต้องสร้างความพร้อมผลิตบุคลากรเข้าสู่ตลาด เข้าสู่อุตสาหกรรม ผลักดันคนเข้าสู่ระบบ เลิกใช้ระบบท่องจำ แต่สอนการคิดวิเคราะห์ให้คนกลายเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนประเทศสู่อาเซียน

ภาควิจัยถือเป็นการลงทุนที่ไทยต้องเร่งให้ความสำคัญที่สุดในขณะนี้ มีข้อสังเกตว่าประเทศเศรษฐกิจเติบโตได้ดีล้วนให้ความสำคัญกับการวิจัยทั้งสิ้น แต่ไทยใช้งบประมาณด้านนี้น้อยมาก โดยในปี 2550 ใช้เพียง 315 ล้านเหรียญสหรัฐหรือร้อยละ 0.21 ของจีดีพีเท่านั้น

“เราจะรอลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร และเครื่องหมายการค้าจากต่างประเทศอย่างเดียวไม่ได้ ไทยต้องเร่งวิจัย พอออกจากห้องวิจัยก็ต้องเข้าสู่กระบวนการผลิตได้ทันที และส่งสินค้าของเราออกไปแข่งขัน”อดีตเลขาธิการอาเซียนกล่าว

เรื่องสุดท้ายที่ต้องเร่งทำ นายสุรินทร์กล่าวว่า คือการให้ภาคประชาชนเปลี่ยนทัศนคติต้องเลิกยึดติดกับอดีตและทัศนะแบบเดิม เช่น การอ้างว่าไทยไม่เก่งภาษาอังกฤษเพราะไม่เคยเป็นเมืองขึ้นใคร การอ้างว่าเป็นธุรกิจเล็ก เป็นตำบลห่างไกล เป็นพื้นที่ชายแดน จึงยังไม่พร้อมปรับตัว ต่อไปทุกคนต้องตระหนักว่าประเทศไทยไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวอีกแล้ว ทั้งนี้ เมื่อสามารถตระหนักถึงความสำคัญของอาเซียนได้แล้ว เชื่อว่าจะเป็นความตระหนักที่ยั่งยืนและช่วยให้ไทยก้าวต่อไป

ที่มาของข่าว www.dlfeschool.in.th/ 18 มีนาคม 2556
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก