ระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติว่าด้วยการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจำจังหวัดพ.ศ. ๒๕๕๑
ระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ
ว่าด้วยการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตามประเภทความพิการ
พ.ศ. ๒๕๕๑
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖ (๗) ประกอบมาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๐ คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ จึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้ เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ว่าด้วยการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตามประเภทความพิการ พ.ศ. ๒๕๕๑”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้มีคณะอนุกรรมการตามประเภทความพิการ ประกอบด้วย
(๑) นายกสมาคมขององค์การคนพิการหรือผู้แทน เป็นประธานอนุกรรมการ
(๒) ผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่เกินสามคน เป็นอนุกรรมการ โดยอย่างน้อยหนึ่งคนให้แต่งตั้งจาก
ผู้แทนองค์การหรือหน่วยงานที่ปฏิบัติงานเพื่อคนพิการ และให้ผู้ทรงคุณวุฒิเลือกกันเองหนึ่งคนเป็นรองประธานอนุกรรมการ
(๓) ผู้แทนองค์การคนพิการหรือผู้ปกครองของคนพิการ ไม่เกินสองคน เป็นอนุกรรมการ
(๔) ผู้แทนสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ ตอนพิเศษ ๗๖ ง/หน้า ๓๔/ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๑
(๕) เจ้าหน้าที่ของสำ นักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติเป็นอนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
(๖) เจ้าหน้าที่ขององค์การคนพิการ เป็นอนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการให้สมาคมขององค์การคนพิการ เป็นผู้เสนอชื่อบุคคลตาม (๒) (๓) และ (๖) อนุกรรมการตาม (๑) ถึง (๖) ต้องมีคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ ตามมาตรา ๑๙ อย่างน้อยหนึ่งคน
ข้อ ๔ อนุกรรมการตามข้อ ๓ (๑) (๒) (๓) และ (๖) ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
(๑) มีสัญชาติไทย
(๒) มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
(๓) มีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
(๔) ไม่วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
(๕) ไม่ติดยาเสพติดให้โทษ
(๖) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
(๗) ไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก แม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุดหรือมีการรอการลงโทษหรือเคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(๘) ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ
ข้อ ๕ อนุกรรมการตามข้อ ๓ (๑) (๒) (๓) และ (๖) มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ
สามปี นับจากวันที่ได้รับการแต่งตั้ง เมื่อครบกำหนดให้แต่งตั้งอนุกรรมการขึ้นใหม่ภายในหกสิบวันให้อนุกรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้นอยู่ในตำแหน่งเพื่อดำเนินงานต่อไป จนกว่าอนุกรรมการซึ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่ และอนุกรรมการที่พ้นจากวาระอาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้
ในกรณีอนุกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ให้มีการแต่งตั้งผู้อื่นเป็นอนุกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ให้ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ข้อ ๖ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ อนุกรรมการตามข้อ ๓ (๑) (๒) (๓) และ (๖) พ้นจากตำแหน่ง เมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ ๔
ข้อ ๗ ให้คณะอนุกรรมการตามประเภทความพิการ มีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) จัดทำแผนปฏิบัติงานพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามประเภทความพิการเสนอต่อคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ
(๒) เสนอแผนงานหรือโครงการ เกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามประเภทความพิการเพื่อเสนอให้คณะอนุกรรมการบริหารกองทุน หรือคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ แล้วแต่กรณี พิจารณาให้ความเห็นชอบ และอนุมัติวงเงิน
รายการค่าใช้จ่าย และการจ่ายเงิน
(๓) ติดตามการดำเนินงานแผนงานหรือโครงการที่ได้รับการสนับสนุน
(๔) ติดตามการกู้ยืมเงินของคนพิการ
(๕) ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานและความเข้มแข็งขององค์การคนพิการ
(๖) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อช่วยเหลือคณะอนุกรรมการ ตามความเหมาะสม
(๗) ดำเนินการอื่นตามที่คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติมอบหมาย
ข้อ ๙ ให้เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ รักษาการตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
สมชาย วงศ์สวัสดิ์
รองนายกรัฐมนตรี
ประธานกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ