ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

มสด.ปรับทัพคณาจารย์เพิ่มงานวิจัย เตรียมรับมืออาเซียน-สู่มหาวิทยาลัยในกำกับ

วันที่ลงข่าว: 12/06/13

ผศ.ดร.พิทักษ์ จันทร์เจริญ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) กล่าวในการประชุมคณาจารย์มสด.เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ความต่อเนื่องในการบริหารมหาวิทยาลัยบนเส้นทางการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ทุกคนต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ โดยเฉพาะเรื่องความคืบหน้าของพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยสวนดุสิต พ.ศ.... นั้น ขณะนี้คณะกรรมาธิการได้พิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวพิจารณาครบทุกมาตราแล้ว อยู่ระหว่างการสรุปทบทวนรายละเอียดคาดว่าภายในเดือน มิ.ย.คงเรียบร้อย และจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในสมัยประชุมที่จะถึงในเดือน ส.ค.นี้ 

 

 

"ด้วยเหตุนี้ คนมสด.จะต้องศึกษา และทำความเข้าใจรายละเอียดต่างๆ เพื่อพัฒนาและปรับปรุงตนเองให้รองรับการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมที่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนดังนั้นบุคลากรสายวิชาการจำเป็นต้องมีความรู้ความสามารถที่หลากหลายกว้างขวางมากกว่าความรู้เดิมที่มีอยู่ รวมถึงพัฒนาศักยภาพของตนเอง เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ ความเข้มแข็งทางวิชาการและองค์กร โดยใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่" ผศ.ดร.พิทักษ์กล่าว

 

ผศ.ดร.พิทักษ์กล่าวด้วยว่า ความต่อเนื่องของการบริหารมหาวิทยาลัยที่จำเป็น ต้องทำอย่างจริงจังคือ มาตรการประหยัดพลังงานและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล หากมหาวิทยาลัยไม่สามารถทำได้จะมีผลกระทบต่องบประมาณ การที่อาจารย์จะมุ่งสอนหนังสืออย่างเดียว จะทำให้ความสามารถด้านอื่นๆ ถูกบดบัง ดังนั้นบุคลากรสายวิชาการต้องสร้างความสามารถในการอยู่รอดให้ได้ด้วยการพัฒนาตนเอง โดยปรับใช้เทคนิคและเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์

 

โดยเฉพาะเรื่องงานวิจัยที่ถือเป็นภาระงานอย่างหนึ่งที่จำเป็นสำหรับอาจารย์ ซึ่งมสด.ให้ความสำคัญงานวิจัยมาก จึงได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เพื่อการวิจัยท้องถิ่นใน 3 จังหวัดคือ หนองคาย อุบลราชธานี และพิษณุโลก ทั้งนี้สวนดุสิตจะเปิดเรียนแบบอาเซียนในปีการศึกษา 2557 โดยเริ่มภาคเรียนที่ 1 เดือนส.ค.-ธ.ค. และภาคเรียนที่ 2 เดือนม.ค.-พ.ค. ระหว่างนี้อาจารย์ต้องเตรียม ความพร้อมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงด้วย

 

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 12 มิถุนายน 2556
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก