ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดพื้นที่ให้กลุ่มเกษตรกร 5 จังหวัดภาคกลางตอนล่าง จำหน่ายสินค้าและขยายตลาดส่งออกด้วยเอฟทีเอ

วันที่ลงข่าว: 06/08/20

            วันที่ 1 สิงหาคม 2563 เวลา 13.00 น. นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ประธานเปิดงานฯ พร้อมด้วย นายไพโรจน์ พ่วงทอง สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดเพชรบุรี นายศุภสัณห์ ศิลป์ชูศรี พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี และผู้ประกอบการ ร่วมเปิดงานโครงการสร้างโอกาสสินค้าเกษตรไทย ขยายตลาดส่งออกด้วยเอฟทีเอ ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ เพชรบุรี 

            นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถิติการค้าของประเทศไทยพบว่าในช่วง 6 เดือน ของปี 2563 สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์จากการเกษตรเป็นสินค้าที่สามารถเพิ่มการส่งออกได้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แม้ว่าจะเกิดสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเรามีจุดแข็งจากการที่เราควบคุมสถานการณ์โควิดได้ดี และเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญของโลก กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้ดำเนินการตามนโยบายในการเร่งฟื้นฟูและสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 จัดโครงการสร้างโอกาสสินค้าเกษตรไทย ขยายตลาดส่งออกด้วยเอฟทีเอ เพื่อเปิดพื้นที่ให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ ในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง 5 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และราชบุรี ร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ คัดสรรสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปที่มีคุณภาพมาร่วมออกบูธจำหน่ายสินค้า เพื่อช่วยเพิ่มรายได้และช่องทางการจำหน่ายสินค้าของเกษตรกร ระหว่างวันที่ 1-2 สิงหาคม 2563 ณ ศูนย์การค้าโรบินสันไลน์สไตล์ จังหวัดเพชรบุรี 

            นอกจากนี้ ภายในงานยังจัดให้มีเวทีสัมมนาสร้างความรู้ ความเข้าใจเรื่องช่องทางการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ไทยทำกับประเทศคู่ค้า 13 ฉบับกับ 18 ประเทศ เช่น อาเซียน จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เป็นต้น เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน และประชาชนที่สนใจ ใช้โอกาสจากการที่ประเทศคู่เอฟทีเอ ลดหรือยกเลิกไม่เก็บภาษีนำเข้ากับสินค้าที่ส่งออกจากไทย ขยายการทำตลาดสินค้าไทยไปต่างประเทศด้วย

 

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก