ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

จังหวัดนราธิวาส เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณาโครงการศูนย์วัฒนธรรมชายแดนใต้ เพื่อการเรียนรู้ เศรษฐกิจและความยั่งยืนของพหุวัฒนธรรม วงเงินงบประมาณ 68.8 ล้านบาท

วันที่ลงข่าว: 15/01/20

         วันที่ 15 มกราคม  63 นางอุษณีย์ ธุวโชติ วัฒนธรรมจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จังหวัดนราธิวาสได้มีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์เมืองนราธิวาสขึ้น ที่อาคารศาลากลางจังหวัดนราธิวาส (หลังเก่า) เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว และแหล่งเรียนรู้เรื่องราวเสน่ห์เมืองนรา อาทิ วิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนที่มีความหลากหลาย ทั้งชาติพันธุ์ ศาสนา ภาษา เครื่องแต่งกาย อาหาร ประเพณี ความเชื่อ ลักษณะสถาปัตยกรรม ที่สำคัญ คือ ห้องนราเปี่ยมสุขด้วยพระบารมี ที่จัดแสดงให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ทรงมีต่อราษฎรชายแดนใต้ และห้องเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

          ทั้งนี้ ได้เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2561 จนถึงปัจจุบัน มีผู้เข้าชมเฉลี่ยเดือนละ 1,700 คน ประกอบด้วย นักเรียน นักศึกษา และประชาชนจากพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ นักท่องเที่ยว และผู้มาเยือนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจากสถิติข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวจังหวัดนราธิวาส (ข้อมูลปี พ.ศ.2559-2562) เฉลี่ยปีละ 666,747 คน และมีรายได้จากการท่องเที่ยวเฉลี่ยปีละ 2,285.4 ล้านบาท

          ในปี 2564 จังหวัดนราธิวาสมีโครงการที่จะพัฒนาเป็นศูนย์วัฒนธรรมชายแดนใต้ เพื่อเป็นศูนย์วัฒนธรรมชายแดนใต้ เพื่อการเรียนรู้ เศรษฐกิจ และความยั่งยืนของพหุวัฒนธรรม จึงเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ และการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน วันที่ 20-21 มกราคมนี้ ที่จังหวัดนราธิวาส พิจารณาในวงเงินงบประมาณ 68.8 ล้านบาท

          วัฒนธรรมจังหวัดนราธิวาส กล่าวย้ำว่า เชื่อมั่นว่าจะเป็นประโยชน์โดยเป็นแหล่งเรียนรู้ และให้บริการในการสร้างคุณค่าพหุวัฒนธรรมขนาดใหญ่ในระดับประเทศ เป็นการสร้างโอกาสในการเชื่อมโยงศูนย์วัฒนธรรม กับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อหนุนเสริมเศรษฐกิจให้กับพื้นที่

          อีกทั้ง การสร้างงานให้กับพื้นที่ในการเป็นไกด์นำเที่ยวทางวัฒนธรรม การจำหน่ายผลิตภัณฑ์และของที่ระลึกที่เชื่อมโยงกับวิถีพหุวัฒนธรรม ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยประยุกต์การใช้ทุนทางวัฒนธรรม เพื่อสร้างคุณค่าทางสังคม และมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ทั้งในเชิงอนุรักษ์ สืบสาน พัฒนาสร้างสรรค์ ต่อยอด นวัตกรรมต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทย ภูมิภาคอาเซียน และนานาชาติ

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก