ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับศูนย์อาเซียนจีนและมหาวิทยาลัยของจีน จัดสัมมนา The One-Day Tourism Seminar on "China-Ready" in Thailand เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-จีนด้านการท่องเที่ยวให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

วันที่ลงข่าว: 28/06/19

        นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนา The One-Day Tourism Seminar on "China-Ready" in Thailand ว่า การสัมมนาดังกล่าวเป็นกิจกรรมเชิงวิชาการ จัดโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ ศูนย์อาเซียน-จีน ,Guilin Tourism University และ Beijing Union University เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-จีน โดยเฉพาะการด้านท่องเที่ยว ซึ่งจีนเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย โดยในปี 2561 ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยกว่า 10 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 จากปี 2560 และรายได้จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยมีมูลค่า 5 แสน 8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 ซึ่งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย ตลอดจนมีอิทธิพลต่อเทรนด์การท่องเที่ยวของไทยในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

         และในปี 2562 นี้กระทรวงฯคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในไทยสูงถึง 13 ล้านคน ในส่วนของ 2 ไตรมาสแรกของปีนี้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรวมทั้งจีนเข้ามาท่องเที่ยวในไทยแล้วกว่า 18 ล้านคน ซึ่งเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนมีจำนวนตัวเลขใน 2 ไตรมาสแรกลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ทั้งนี้ไทยมีนักท่องเที่ยวจากอินเดีย มาเลเซีย และลาวเข้ามาเพิ่มมากขึ้น สำหรับการจัดสัมมนาในครั้งนี้จะช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าใจพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งจะสามารถเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่มีศักยภาพเข้ามาท่องเที่ยวไทยได้มากยิ่งขึ้น

        นอกจากนี้ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่ม F.I.T หรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเองโดยไม่ผ่านบริษัททัวร์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงมีการใช้จ่ายต่อคนเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งส่วนหนึ่งมีผลมาจากมาตรการฟรีวีซ่า VOA ที่จะสิ้นสุดในเดือนตุลาคม 2562 และหากใกล้ระยะเวลาสิ้นสุดของมาตรการ กระทรวงฯจะมีการเสนอขยายระยะเวลาออกไปอีก เนื่องจากมาตรการนี้ได้ผลที่ดีเป็นอย่างมาก โดยกระทรวงฯจะเตรียมข้อมูลด้านตัวเลขของนักท่องเที่ยวเพื่อไปเสนอต่อรัฐมนตรีคนใหม่ของกระทรวงต่อไป

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก