“การต่อยอดทางการศึกษาของคนพิการ ตอน 2”
คุณอรุณี ลิ้มมณี กล่าวว่า การสร้างห้องน้ำถ้าหากสร้างแบบที่สามารถใช้ด้วยกันได้ ปัญหาต่าง ๆ จะไม่เกิดขึ้น บางทีมีห้องน้ำคนพิการห้องเดียวแต่คนไม่พิการเข้าไปใช้บริการแล้วใช้เวลานาน ทำให้คนพิการที่มาใช้บริการต้องรอ ห้องน้ำบางที่มีทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น สำหรับเด็ก คุณแม่ลูกอ่อน ผู้สูงอายุ รวมอยู่ในห้องเดียว แต่ปั๊มน้ำมัน ปตท. และบางจาก จะมีห้องน้ำให้คนพิการ 2 ห้อง หรือบางปั๊มจ่ายเงิน 20 บาท ได้ห้องน้ำที่สะอาดพิเศษสำหรับวีลแชร์ เขาไม่ได้มองว่าคนพิการยากจนแต่มองว่าเป็นผู้บริโภค เพราะคนพิการที่ยินดีเสียเงินก็มี ทางปั๊มมองในมุมที่ทุกคนเท่าเทียมกัน หลายคนจะคิดว่าอะไรที่เป็นของฟรี ต้องการกุศล คนพิการไม่ได้ต้องการสิทธิพิเศษ คนพิการที่มีกำลังจ่าย/ซื้อก็มี ไม่ต้องให้ฟรีแต่ขอให้บริการเราเหมือนคนทั่วไป ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงเรื่องการศึกษา ถ้าคนพิการเข้าห้องน้ำไม่ได้ ไม่สามารถไปเรียนหนังสือได้ และบางคนชอบพูดกับพ่อ-แม่ ว่าจะให้เรียนไปทำไมเสียเงินเปล่า เขาไม่คิดว่าเราก็เป็นทรัพยากรบุคคลที่ควรค่าแก่การลงทุน เรียนไปก็หางานทำไม่ได้ แต่พ่อบอกว่า เรียนให้จบก่อน พ่อเป็นคนสร้างแรงบันดาลใจให้เรา ใครจะพูดอะไรเราไม่สนใจ เรามั่นใจว่า ถ้าเราจบมหาวิทยาลัยดี ๆ เรามีงานทำแน่นอน
อยากฝากว่า อย่าดูถูกความฝันของเด็กไม่ว่าจะเป็นเด็กพิการหรือไม่พิการ เมื่อตอนเด็ก ๆ ได้อ่านผู้ปกครองของสถานสงเคราะห์ให้สัมภาษณ์ว่า เด็กพิการในสถานสงเคราะห์ ความฝันที่ไม่ได้ตั้งอยู่ความจริง ไม่ยอมรับความจริง ไม่ยอมรับสภาพตัวเอง ฝันอยากเป็นดารานักแสดง แม้แต่ความฝันยังไม่มีสิทธิฝัน ตอนนั้นมีความรู้สึกแบบนี้ เด็กคนอื่นฝันอยากเป็นดารานักแสดงนักบินแล้วแต่เด็ก ตอนเด็กบอกกับตัวเองโตขึ้นอยากเป็นผู้พิพากษา อยากเป็นรัฐมนตรี อยากเป็นทูต และเคยบอกว่าอยากเป็นนายกรัฐมนตรีหญิง อย่าไปดูถูกความฝันของเด็ก
หลังจากเรียนจบไปสอบ กพ. คนที่สอบหลังเราถูกเรียกไปหมดแล้วแต่เราไม่ถูกเรียก จึงติดต่อไปทาง กพ. บอกว่าส่งไป แต่ทุกที่ปฏิเสธ กพ.เป็นส่วนกลางมีตำแหน่งว่างตรงจะส่งไปแต่พอรู้ว่าเป็นคนพิการจะถูกปฏิเสธทุกครั้ง เพราะตอนที่ศึกษาธรรมศาสตร์ไม่ได้รู้สึกแตกต่าง แต่เมื่อเรียนจบหางานทำ เรื่องของทัศนคติทำให้เริ่มกลัว คิดแทน ครอบงำ ชอบคิดแทนคนพิการ ส่วนตัวเราทำได้แค่ไหนอย่างไร อยู่ที่ตัวเรา ทำงานที่กรมชลประทาน 6 ปี หากเด็กรุ่นใหม่อยากศึกษาต่อต่างประเทศ ต้องพยายามสอบชิงทุนพยายามศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ต้องเริ่มตั้งแต่เด็ก สมัยนี้โอกาสทางด้านภาษามีมากกว่าสมัยก่อน เข้าถึงได้ง่าย เด็กรุ่นใหม่มีโอกาสมากขึ้น
ทิ้งท้าย ทุกช่วงวัยของคนเราอยู่ในช่วงของการเรียนรู้ อย่างน้อง ๆ ตอนเด็กอยากเป็นอย่างหนึ่ง พอโตขึ้นมาเปลี่ยนใจอยากเป็นอีกอย่าง เป็นช่วงของการค้นหาตัวเอง ค้นหาให้ได้ว่าเราชอบอะไร ถนัดอะไร จะต้องทำงานนั้นไปตลอด และที่สำคัญต้องเรียนในสิ่งที่ชอบเพราะเราต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิต คนเราสามารถทำตามความฝันของเราได้ ขอให้น้อง ๆ มั่นใจในตัวเอง ใครจะว่าอะไร โนสนโนแคร์ ขอให้มั่นใจว่าเราทำได้
... สามารถติดตามรับฟังรายการรวมใจเป็นหนึ่ง ได้ทางสถานีวิทยุศึกษา FM 92 MHz หรือ www.moeradiothai.net