ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

การบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านที่ไม่ใช่ภาษา ตอนที่ 1 (Nonverbal Learning Disorders หรือ NLD 14/06/2010

โดย ซู ทอมพ์สัน M.A. C.E. (1996)

ไม่ต้องสงสัยว่า การบรรลุความสำเร็จของนักวิชาการส่วนใหญ่ที่แสดงความสามารถออกให้เห็นอย่างชัดแจ้งนั้น  จะผ่านการสื่อสารที่ขึ้นอยู่กับภาษา   แม้กระนั้นก็ตาม มันถูกพบว่า  มากกว่า 65 % ของการสื่อสารทั้งหมด โดยแท้จริงแล้วถูกส่งต่อโดยไม่ใช้ภาษา  เราทุกคนคุ้นเคยกับ “การสื่อสารที่ไม่ใช่ภาษาถ้อยคำ”  แต่มีบุคคลระดับมืออาชีพเพียงไม่มากที่ได้ถูกฝึกฝนมาโดยเฉพาะเพื่อจะมองเห็นข้อบกพร่องเกี่ยวกับเรื่องนี้  แม้ว่าจะมีการวัดอย่างยอดเยี่ยมออกแบบมาเพื่อประเมินความฉลาดในแง่มุมที่ใช่ภาษาและไม่ใช่ภาษา  นักการศึกษามักจะละเลยการปรากฏข้อบกพร่องที่ไม่ใช่ภาษาของนักเรียน  หรือที่เลวร้ายกว่านั้น คือ พวกเขาตีตรานักเรียนที่บกพร่องทางการเรียนรู้ที่ไม่ใช่ภาษาว่า  เป็นเด็กที่มี “ปัญหา”

เราทุกคนรู้ถึงความสำคัญในบทบาทของภาษาที่มีในการเรียนรู้ของมนุษย์  ความสามารถของแต่ละคนในสังคมปัจจุบันของเรานี้  ส่วนใหญ่มักถูกตัดสินโดยความเชี่ยวชาญในการใช้ภาษาถ้อยคำ  บุคคลที่พูดได้อย่างมีคารมคมคายดีและรู้จักพัฒนาคำศัพท์ได้ดีมักจะได้รับความเชื่อถือที่มากขึ้นกว่าบุคคลที่ทำผิดหลักไวยากรณ์อยู่เสมอและแสดงถึงการใช้คำศัพท์ที่จำกัด  นักเรียนซึ่งบกพร่องทางการด้านการอ่านที่เป็นมาแต่ดั้งเดิม รวมทั้งการสะกด หรือการแสดงออกของตนเองจะเป็นที่เห็นเด่นชัดในชั้นเรียนส่วนใหญ่  เช่นเดียวกัน  นักเรียนซึ่งเป็นนักอ่านชั้นยอด  ทำคะแนนการสะกดคำได้เป็นเลิศและแสดงการออกเสียงได้อย่างชัดเจน  ตามปกติแล้วไม่ได้ทำให้ครูคิดว่ามีข้อบกพร่องทางการเรียนรู้  แต่บ่อยทีเดียวที่มีการปรากฎว่า เด็กที่มีอาการบกพร่องทางการเรียนรู้ที่ไม่ใช่ภาษาถ้อยคำแสดงตัวในช่วงประถมต้น

การบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านที่ไม่ใช่ภาษา (เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การบกพร่องของสมองซีกขวา) มักไม่เป็นที่รับรู้และไม่ได้รับการช่วยเหลือจากครูและบุคคลในแวดวงอาชีพอื่นๆ ในช่วงวัยเรียนในโรงเรียน  กล่าวโดยสรุปคือ ไม่มีการระลึกรู้ถึงสาเหตุความยุ่งยากของนักเรียนในโรงเรียนที่ซ่อนอยู่เท่าที่ควร  ปัจจุบันนี้ มีเพียงสองสามแหล่งทรัพยากรเท่านั้นที่จะช่วยเหลือเด็กที่มีอาการบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านที่ไม่ใช่ภาษา (NLD) โดยผ่านโรงเรียนและองค์กรเอกชนหลายแห่ง  ยังเป็นเรื่องยากที่จะค้นพบบุคคลมืออาชีพซึ่งเข้าใจการบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านที่ไม่ใช่ภาษา  เด็กๆ เหล่านี้มักถูกตราหน้าว่า “พฤติกรรมมีปัญหา” หรือ “เป็นที่รบกวนทางอารมณ์” เนื่องจากมีความประพฤติที่ไม่คาดหวังหรือไม่เหมาะสมอยู่บ่อยๆ  แต่เด็กที่บกพร่องทางการเรียนรู้ด้านที่ไม่ใช่ภาษา (NLD) เป็นที่รู้จักกันว่าเกิดจากสาเหตุทางระบบประสาทมากกว่าบ่อเกิดจากความตั้งใจหรืออารมณ์

อาการบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านที่ไม่ใช่ภาษานี้ เป็นความสามารถที่บกพร่องที่จะจัดระเบียบกับการมองเห็นในที่ว่าง  การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ ๆ และ/หรืออ่านสัญญาณและเครื่องเตือนที่ไม่ใช่ภาษาถ้อยคำได้อย่างถี่ถ้วน  มันดูเหมือนจะเป็นอาการย้อนกลับของการบกพร่องทางการอ่าน (dyslexia)  แม้ว่านักเรียนจะมีความก้าวหน้าทางวิชาการ แต่นักเรียนเหล่านั้นยังจะมีความยุ่งยากในสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งต้องการความเร็วและความสามารถในการปรับตัว  ขณะที่การบกพร่องทางการเรียนรู้ทางด้านภาษามีการแสดงผลว่า  มีจุดก่อกำเนิดจากยีนส์  แต่เรื่องของกรรมพันธ์ยังไม่ได้ถูกเชื่อมโยงกับ NLD  เป็นที่รู้กันว่า การบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านที่ไม่ใช่ภาษาเกี่ยวข้องกับกระบวนการการแสดงออก (โดยทั่วไปแล้ว ถูกคิดถึงในทางโรคระบบประสาท ในฐานะที่ก่อกำเนิดในสมองซีกขวา ซึ่งเชี่ยวชาญในกระบวนการที่ไม่ใช่ภาษา)

การสแกนสมองของแต่ละบุคคลที่เป็น NLD มักยืนยันถึงความผิดปกติของสมองซีกขวา  ประวัติของการรักษาได้เปิดเผยว่า  จำนวนของเด็กๆ ที่เดือดร้อนจากการบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านที่ไม่ใช่ภาษาซึ่งได้แวะมาตรวจที่คลีนิค มีช่วงเวลาต้นๆ ของการรักษา 1) ประสบการบาดเจ็บทางศีรษะอย่างหนักหรือปานกลาง  2) ได้รับการรักษาโดยการฉายรังสีซ้ำๆ ที่ศีรษะหรือบริเวณใกล้ๆ เป็นช่วงเวลานาน  3) ไม่มีสมองส่วนคอปัส คาโลซัม มาแต่กำเนิด   4) ได้รับการรักษาโรคน้ำคั่งในสมอง  หรือ 5) มีการนำเนื้อเยื่อสมองซีกขวาออกไป

การเป็นอันตรายทางระบบประสาทเหล่านี้เกี่ยวโยงกับการทำลายของส่วนประกอบสีขาวที่ยาวในสมองที่เชื่อมโยงกับสมองซีกขวา  ดังนั้น  หลักฐานและทฤษฎีในปัจจุบันชี้ออกมาว่า  ความเสียหายในช่วงเริ่มแรกของสมองซีกขวาไม่ว่าจะเป็นจากโรค  การบกพร่อง หรือสมรรถนะผิดปกติ และโรคที่แพร่กระจายในส่วนประกอบสีขาว  ซึ่งปล่อยให้ระบบของสมองซีกซ้ายทำหน้าที่ตามลำพัง  เป็นสาเหตุของอาการ NLD ในทางการแพทย์ การจำแนกการบกพร่องทางการเรียนรู้ประเภทนี้คล้ายคลึงกับคนไข้วัยผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ประสบการบาดเจ็บทางศีรษะอย่างรุนแรงทางสมองซีกขวา โดยแสดงทั้งอาการของโรคและทางความประพฤติ

การบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านที่ไม่ใช่ภาษา (NLD) ปรากฎให้พบน้อยกว่าการบกพร่องทางการเรียนรู้ทางภาษามาก  ขณะที่มีการประมาณว่า ราว10%ของประชากรโดยทั่วไปที่เราอาจพบว่าบกพร่องทางการเรียนรู้ที่สามารถระบุได้  คาดกันว่าเพียงแค่ราว 1%-10% ของบุคคลที่บกพร่องเหล่านั้นเท่านั้นที่ถูกพบว่า เป็น NLD (หรือระหว่าง 1.0 ถึง 0.1% ของประชากรโดยทั่วไป)  ไม่เหมือนกับการบกพร่องทางการเรียนรู้ทางด้านภาษา  อาการ NLD มีผลกระทบต่อผู้หญิงมากเท่าๆ กับผู้ชาย และหาได้ยากในคนที่ถนัดซ้าย

แปลและเรียบเรียงโดย พรรษชล ศรีอิสราพร

ภาพประกอบบทความหน้าต่าง LD

แบบประเมินคุณภาพสื่อ สสพ.

คุณพอใจกับคุณภาพสื่อข้างต้นมากน้อยเพียงใด
  • พอใจมาก0
  • พอใจ0
  • ปานกลาง0
  • ไม่พอใจ0
  • ไม่พอใจมาก0
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก