“คนพิการกับความรัก”
ผมมีลูกเป็นเด็กออทิสติก ตอนนี้เรียนจบปริญญาตรีเกี่ยวกับอาหารที่สวนดุสิต และได้ทำงานที่ครัว ๑๒ ที่สวนดุสิต ตอนที่ดูแลลูกมีผู้ปกครองเชิญชวนเข้าสมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิสซึม(ไทย) คิดว่าคนในสังคมส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้จักออทิสติก และยังถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ ปัจจุุบันี้ลูกผมอายุ ๓๐ กว่าปีแล้ว
ความสุขของเด็กออทิสติกจะมีความสุขกับสิ่งที่เขาสนใจ ตอนเด็ก ๆ ลักษณะพฤติกรรมจะเหมือน ๆ กัน ชอบอะไรที่หมุน ๆ นั่งจ้องพัดลมได้เป็นวัน ๆ นั่นคือความสุขของเขา อะไรที่ทำแล้วมีความสุขก็จะทำซ้ำ ๆ ชอบดูหนังเรื่องนี้ก็จะดูซ้ำ ๆ นี่คือลักษณะความสุขเขา ถ้ากินชอบกินก็จะกินอย่างมีความสุข ต้องพยายามให้เขาออกจากโลกส่วนตัวของเขาให้ได้ ตอนนี้เด็กสามารถประกอบอาชีพได้ เพียงแต่ว่าเราต้องสอนเขา มีกระบวนการมีการส่งเสริม ตัวอย่างในประเทศอังกฤษ ร้านอาหารที่อยู่ตามถนนต่าง ๆ เขาแข่งขันกันบริการ มีการประกวดประเมินตลอด บางร้านได้รางวัลตลอดปี เพราะให้เด็กออทิสติกเป็นพนักงานต้อนรับแต่งตัวเรียบร้อยใส่ถุงมือ โค้งคำนับเป็นสเต็ป แต่ถ้าเป็นคนปกติอาจจะละเลยไปบ้าง เพราะฉะนั้นเวลามาประเมินกี่ครั้ง พนังงานคนนี้ก็จะทำเหมือนปกติตลอด เป็นมาตรฐานของเด็กออทิสติก
เริ่มต้นความรักจากพ่อแม่ครอบครัว เมื่อแรกพบความผิดปกติโดยการสังเกตุว่า เด็กออทิสติกจะไม่สนใจใครเลยแม้กระทั่งพ่อแม่ เวลาจะอุ้มจะถีบตัวหนี พ่อแม่ต้องใช้ความอดทนในการโอบกอด สบตา เด็กถึงจะไว้วางใจ ความรักครั้งแรกเกิดขึ้นจากพ่อแม่หรือคนในครอบครัวแล้วเด็กจะไว้วางใจ พอเด็กไว้วางใจสามารถสอนได้ ปรับพฤติกรรมได้ เด็กจะรักจะเชื่อ เรื่องการแสดงออกบางทีเด็กมีความรักแต่แสดงออกไม่เป็นใหม่ ๆ ต้องใช้การโอบกอด การโอบกอดการสัมผัสเด็กจะรู้ได้ว่าคือการแสดงความรัก แต่ผู้ปกครองต้องมีกระบวนการในการสอน ถ้าช่วงวัยเด็กกอดหอมได้ แต่พอเป็นเยาวชนแล้วต้องเปลี่ยนกระบวนการสอน
ผู้ปกครองคนหนึ่งมีลูกน่ารักมาก หอมแก้ม พ่อแม่ ดูแล้วน่ารัก แต่ตอนนี้ลูกโตแล้วเวลาไปงานก็จะนั่งกอดคุณแม่แล้วหอมแก้มคุณแม่มันเป็นภาพที่ไม่ใช่แล้วตอนนี้ เพราะฉะนั้นกระบวนการสอนคุณพ่อคุณแม่ต้องปรับไปเรื่อย ๆ ให้เหมาะสมกับสภาพ เด็กอาจจะยังแยกแยะไม่ได้ เมื่อเด็กโตขึ้นโฮโมนเริ่มเปลี่ยนเด็กก็จะสนใจเพศตรงข้าม สิ่งสำคัญพ่อแม่ต้องมีองค์ความรู้เรื่องสุขภาวะ เพศวิถี ถ้ามีลูกสาวช่วงนี้เริ่มมีประจำเดือนก็ต้องสอนในเรื่องความสะอาด เรื่องสงวนเนื้อสงวนตัว มีลูกชายเริ่มโตขึ้นต้องสอนให้รู้จักเรื่องความสะอาด เรื่องการแต่งกาย เป็นต้น