“เส้นทางชีวิตของผู้นำสตรีพิการ ตอนที่ 2”
ได้ไปศึกษาต่อที่ ราชมงคลธัญญบุรี จนจบปริญญาตรี หลังจากจบได้สมัครงานก็เจอปัญหาอุปสรรคพอสมควรและได้ไปสัมภาษณ์งานในตำแหน่งช่างแพทเทิร์น ตอนแรกก็จะไม่รับเพราะเห็นการเดินของเรา ก็เลยขอพิสูจน์ตัวเองถ้าภายใน 6 เดือนการทำงานของเราไม่ผ่านเราไม่ขอรับเงินเดือนเลย เราทำงานจันทร์ถึงเสาร์ วันอาทิตย์ก็ได้ไปเรียนดีไซน์ออกแบบเสื้อผ้าแล้วไปเรียนตัดเย็บชั้นสูง ในเมื่อมาในสายนี้แล้วต้องมาให้สุด อยากจะบอกว่าอย่าไปอายความพิการบอกเขาเลยว่าเราเป็นคนพิการเรามีความบกพร่องแบบนี้ต้องการให้ช่วยแบบนี้เพื่อเป็นความปลอดภัยของตัวเราเอง
ได้ไปเรียนขับรถมุ่งมั่นกับตัวเองว่าเราจะต้องขับรถให้ได้ ก็ได้ไปโรงเรียนสอนขับรถและบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า มาสมัครเรียนขับรถขอเกียร์ออโต้เพราะเป็นคนพิการ จบแล้วต้องขับรถได้จริง บอกกับอาจารย์แบบนี้เลยเพราะตัวเองไม่สามารถใช้บริการรถสาธารณะได้ เจ้าของโรงเรียนสอนขับรถได้ลงมาแล้วบอกว่าผมรับคุณ ผมจะเป็นคนสอนคุณเอง แล้วก็ส่งกุญแจรถให้ไปสตาร์รถรอเลย ผ่านไป 20 นาทียังหาที่เสียบกุญแจไม่ได้เลย จนอาจารย์เดินมาทำไมยังไม่สตาร์รถ คุณลองดูสิ คลำให้เจอว่าจะเสียบกุญแจยังไง พอเสียบได้อาจารย์บอกให้ขับออกไปเลย อาจารย์มาบอกทีหลังว่า วันนั้นผมเสียวมากเลยเหมือนงูเลย ก็เรียนจนสามารถขับรถได้แล้วก็ไปสอบใบขับขี่ก็มีปัญหาเพราะสมัยนั้นยังไม่มีการคิดว่าจะออกใบขับขี่ให้คนพิการ
ปี 2530 สอบข้อเขียนได้เต็ม แต่สักครู่มีคนมาบอกว่า เค้าไม่อนุญาตให้สอบปฏิบัติได้ ทำไมในเมื่อเรามาขอสอบคุณจะตัดสิทธิเราได้ยังไง ก็เลยขอขึ้นไปห้อง ผอ เลยก็ไม่ยอมให้พบ ก็เลยนั่งรอตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึงบ่าย 2 โมง จนเขาทนไม่ได้ออกมาคุยว่า ผมไม่ช่วยคุณ ขอโทษนะคะดิฉันมาขอสอบไม่ได้มาขอให้ช่วย ถ้าดิฉันสอบไม่ได้ สอบไม่ผ่านดิฉันยินดีกลับ เขาบอกว่าไม่ได้หรอกคนพิการจะมีใบขับขี่ไม่ได้เดี๋ยวจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ก็เลยถามว่าคุณเอาสถิติที่ไหนว่าคนพิการทำให้เกิดอุบัติเหตุ คนเมามากกว่าหรือเปล่า ทำไมคุณให้ใบขับขี่คนเมาได้แล้วคนพิการทำไมให้ไม่ได้ เขาก็เลยบอกไปสอบ แล้วเราก็สอบจนผ่าน แล้วก็ออกใบขับขี่ให้ เดือนต่อมาออกรถยนต์เลย ขอฝากบอกเพื่อนๆคนพิการ ขอให้คุณสู้แล้วความสำเร็จหรือชัยชนะมันจะรอคุณอยู่ข้างหน้า ขอให้อย่าท้ออย่างเดียวและอย่าหมดหวังกับความพิการของตัวเอง